หลาย ๆ คนคงยังไม่ทราบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีจำนวนเสือโคร่งมากพอที่จะฟื้นฟูจำนวนประชากรเพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ ซึ่งทาง ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ก็ได้สนับสนุนให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์เสือโลก

ภาพถ่ายโดย Robert Stokoe จาก Pexels

ซึ่งวันอนุรักษ์เสือโลก หรือ วันอนุรักษ์เสือโคร่งแห่งชาติ (International Tiger Day) จัดตั้งขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตระหนักและความสำคัญของเสือโคร่งในระบบนิเวศ จากการประชุมว่าด้วยเรื่องเสือโคร่ง (Tiger Summit) กำหนดเมื่อ พ.ศ. 2553 ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยกลุ่มประเทศที่มีการกระจายของเสือโคร่ง จำนวน 13 ประเทศ เพื่อส่งเสริมให้มีการปกป้องที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ และเพื่อสร้างความตระหนักของประชาชน ตลอดจนการสนับสนุนการอนุรักษ์เสือโคร่ง

‘เสือโคร่ง’ เป็นสัตว์กินเนื้อ ซึ่งเป็นผู้ล่าสูงสุดในห่วงโซ่อาหาร การฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง เป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศ และจำนวนประชากรเสือที่เพิ่มขึ้น จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและความหลากหลายของเหยื่อสัตว์หลากหลายชนิดอีกด้วย

ในอดีตเคยมีเสือโคร่ง อยู่ 8 สายพันธุ์ย่อย อาศัยอยู่ในป่าทั่วประเทศ แต่สูญพันธ์ุไปแล้ว 3 สายพันธุ์ย่อย ปัจจุบันด้วยภัยคุกคามจากการล่าและการทำลายที่อยู่อาศัย ทำให้ประชากรเสือโคร่งใกล้สูญพันธุ์ และจะพบได้ตามพื้นที่อนุรักษ์ไม่กี่แห่งเท่านั้น

ภาพถ่ายโดย Sourabh Mehra จาก Pexels

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม มีความกังวลต่อการลดลงของประชากรเสือโคร่ง โดยตลอด7 ปีที่ผ่านมา บี.กริม ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประชากรเสือโคร่ง ผ่านการสนับสนุนองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) เพื่อการอนุรักษ์ประชากรเสือโคร่งในประเทศไทย

โดย ดร.ลิงค์ ได้กล่าวถึงความห่วงใยต่ออนาคตของเสือโคร่งในไทยว่า ‘ประเทศไทยคือหนึ่งในไม่กี่ประเทศ และเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังมีจำนวนเสือโคร่งในธรรมชาติมากเพียงพอต่อการฟื้นฟูจำนวนประชากร เราตระหนักดีว่า หากเสือโคร่ง ซึ่งอยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศถูกทำลาย จะส่งต่อสภาพแวดล้อมทางชีวภาพทั้งหมดอย่างไร และเป็นการยากแค่ไหนที่จะรักษาสมดุลธรรมชาติ ให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง แต่สถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ ถือว่าเรายังมีโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนเสือ’

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์

จากข้อมูลของ WWF ประเทศไทย ระบุว่า ทั่วโลกมีเสือโคร่งตามธรรมชาติเหลืออยู่ประมาณ 100,000 ตัว ในช่วงเริ่มต้นศตวรรษที่ 20 แต่จำนวนประชากรของเสือโคร่งได้ลดลงต่อเนื่องจนเหลือประมาณ 3,200 ตัวในปี จึงได้เรียกร้องให้มีการระดมทุนอย่างเร่งด่วนสำหรับพื้นที่เขตอนุรักษ์เสือโคร่ง จากผู้นำ 13 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ, ภูฏาน, กัมพูชา, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, เนปาล, รัสเซีย, เวียดนาม และไทย เพื่อรับรองโครงการและฟื้นฟูเสือโคร่งทั่วโลก เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่งขึ้น 2 เท่า ให้ถึง 6,400 ตัว ในปี 2022    

รวมถึงจำนวนเจ้าหน้าที่อุทยานที่ต้องเพิ่มขึ้น เพื่อสกัดกั้นการล่าอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งเพิ่มถิ่นที่อยู่อาศัยสำหรับเสือโคร่ง รวมถึงการหยุดความเชื่อที่ว่า อวัยวะของเสือโคร่งมีสรรพคุณพิเศษในการบำรุงและรักษาโรค ‘เราทุกคนต่างเชื่อมโยงกันหมด ถ้าสัตว์อยู่ไม่ได้ คนก็อยู่ไม่ได้ โควิด-19 คือเครื่องเตือนความจำอันแสนเจ็บปวด ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากสัตว์ป่าไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง การอนุรักษ์เสือโคร่ง ซึ่งเป็นนักล่าขั้นสูงสุด และการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่แต่เฉพาะเพื่อความอยู่รอดของสายพันธุ์เสือโคร่งเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติอีกด้วย’..