เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีมีเวลา 3 ปี ได้ตั้งการประเมินผลงานตัวนายกฯ เองและรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง ว่า การวัดการประเมินต่างๆคงต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกว่า เราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนของนโยบายต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร ในใจคิดว่าต้องสรุปให้ประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน แต่ส่วนตัวจะนัดรัฐมนตรีแต่ละคนมาร่วมพูดคุยกันทุกกระทรวง โดยจะสลับกระทรวงกันไป ซึ่งได้วางเวลากันแล้วว่าจะเป็นช่วงไหน อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เวลามอบหมายอะไรไปแล้ว ไม่สามารถถามได้ว่าอยู่ตรงไหน คิดว่าทุกท่านก็มีความตั้งใจที่จะทำตามนโยบายอยู่แล้ว ก็คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น
เมื่อถามว่าการเมืองปัจจุบันนิติสงครามทางการเมือง จะสู้รบอย่างไร เพื่อให้การทำงานอยู่ครบ 3 ปี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกท่านมีความตั้งใจอยู่แล้ว เรื่องของกฎหมาย เรามีทีมกฎหมาย แต่แน่นอนในคณะรัฐมนตรี มีผู้มีประสบการณ์และมีรัฐมนตรีใหม่ ฉะนั้นเราปรึกษากันและกัน ประสบการณ์เหล่านี้ บางทีต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางเรื่องไม่สามารถตอบได้ว่าขาวหรือดำ แน่นอนว่าก็ต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่าง ปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบและรัดกุม เมื่อถามอีกว่า นายกฯ ไม่กังวลกับคิวกฐินที่รอนายกฯ อยู่ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่า “คิวกฐินเลยหรือ นี่คือคำเปรียบเทียบใช่ไหม” เมื่อสื่อตอบว่า มีนักร้องเตรียมที่จะร้องหลายคดี นายกฯ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “แค่สื่อมวลชนถามก็น่าสงสารแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดี ก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และความจริงไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็กอยู่เลย”
เมื่อถามว่านโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างไปจากรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ บ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือว่า เราเองอยากทำงานให้ครบสามปี ให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน อย่างตอนนี้ มีการเปลี่ยนนายกฯ และคณะรัฐมนตรี เราพยามตอกย้ำยืนหยัดว่าตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายเศรษฐา เป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว ก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม นโยบายครั้งนี้ เราก็ได้ปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจาก นายเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล ว่ามีตรงไหนหรือไม่ที่จะต้องปรับแก้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ต่างๆ จะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และนโยบายที่เรารวบรวมในการแถลงในเล่ม เป็นนโยบายที่เราใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง เราได้ตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลจนมาถึงตอนนี้ ก็อยากแย้มได้เลยว่า ค่อนข้างนโยบายเหมือนเดิม มีการเป็นปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ
เมื่อถามอีกว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ ด้วยความเป็นพ่อลูกกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้มีการมองว่าระบอบทักษิณกลับมาแล้ว จะลบคำปรามาสนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้แล้วกันค่ะ“