การเมืองยังร้อนไม่หยุด “รัฐบาลแพทองธาร 1 ”เดินหน้าจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ภายใต้เงาบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นการตั้งรัฐบาลแบบสูตรพิสดารอีกรอบ หลังจากรอบแรกมีการถีบพรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ไปเป็นฝ่ายค้านฉีกสัตยาบัน 8 พรรคร่วมรัฐบาล ข้ามขั้วหันไปจับมือกับพรรคอนุรักษ์นิยม จัดตั้งรัฐบาลสูตรพิสดารภาคหนึ่ง
มาตอนก็มีปฏิบัติการจัดตั้งรัฐบาลที่ถือได้ว่า เป็น “สูตรพิสดารภาคสอง” ด้วยการถีบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในส่วนของ“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและลูกสมุนออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่กลับดึง 22 สส. จากขั้วของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาเติมเสียงให้ “รัฐบาลแพทองธาร1”
เกมนี้ใครๆก็บอกว่า คนที่ปิดสวิตช์ 3 ป.คือ ร.อ.ธรรมนัส เพราะมีการชิงเกมออกมาประกาศตัวขอเป็นอิสระจาก “ลุงป้อม” หลังที่ “ลุงป้อม” เดินเกมพลาดส่งรายชื่อคนที่เป็นรัฐมนตรี 4 คนในโควตาพปชร. ให้กับพรรคเพื่อไทย แต่ไม่มีชื่อร.อ.ธรรมนัส ทำร.อ.ธรรมนัสที่เคยเป็นลูกรัก “ลุงป้อม” แสดงอิทธิฤทธิ์แข็งข้อเทลุงรวบรวมสส.หักบ้านในป่า
เข้าทางนายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า“ทักษิณ ชินวัตร” ที่ไม่ต้องการให้ “ลุงป้อม”เข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะมีแค้นจากการที่ กลุ่มอดีต 40 สว.ที่ใครๆก็รู้ว่า เป็นมือไม้ของคนบ้านป่า ทำให้ “นายเศรษฐา ทวีสิน” ต้องหลุดจากนายกรัฐมนตรี “นายใหญ่”จึงขยับหมากเดินเกมเขี่ยทิ้ง แล้วส่งเทียบเชิญจีบพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย โดยอ้างว่ามีอุดมการณ์เดียวกัน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่แพ้พรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงพรรค6 สส.พรรคไทยสร้างไทย ซีกฝ่ายค้านที่โหวตให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 หักคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค
เกมนี้กลายเป็นยุทธการที่หลายคนมองว่าเป็นเกมชำระแค้นของ “นายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร” ที่กลับบ้านอย่างเท่ๆ และเดินเกมกินเรียบพรรคศัตรูคู่แข่ง แค้นที่ “ลุงป้อม” ที่ส่ง 40 สว.มาร้องศาลรัฐธรรมนูญ ทำ “เศรษฐา”ตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยร่วมมือกับ “ลุงป้อม” จนต้องทำให้ “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ
ยุทธการล้างแค้น ที่ว่า จึงทำให้เกิดสูตรพิสดารภาคสอง มีพรรคร่วมรัฐบาล 15 พรรค จำนวนเสียงถึง 321 เสียง โดยมีพรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 70 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทย 10 เสียง พรรคประชาชาติ9 เสียง พรรครวมพลัง 2 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียง ไม่รวม ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สรรเพชญ บุญญามณี กลุ่มร.อ.ธรรมนัส 22 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 5 เสียง ยังไม่นับ 1 เสียง สุภาพร สลับศรีสส. ยโสธรที่ถูกขับออกจากพรรคไทยสร้างไทย และกำลังหาสังกัดพรรคการเมืองใหม่ นอกจากนี้ยังมีพรรคเล็กอีก 5 พรรค 5 เสียง คือ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่ พรรคท้องถิ่นไทย พรรคพลังพลังสังคมใหม่
ต้องยอมรับว่าก้าวย่างต่อไปของ “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี ต้องเริ่มต้นด้วยคำปรามาส ถึงคุณวุฒิ วัยวุฒิ ที่ต้องมารับหน้าที่เป็นนางแบกประเทศไทย ซึ่งกำลังอยู่ในวิกฤต ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และจากการตั้งรัฐบาลสูตรพิสดารครั้งนี้ที่ได้สร้างศัตรูรอบด้าน โดยศัตรูที่สำคัญ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่บรรดานักวิชาการประเมินว่า แม้พ่ายศึกครั้งนี้แต่ไม่ได้แพ้สงคราม ยังมีทีเด็ดที่สามารถทำให้รัฐบาลสะเทือนได้อย่าประมาททหารเฒ่าอย่าง “ลุงป้อม”
เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าในมือพล.อ.ประวิตร มีคลังแสงอะไรไว้บ้าง ทั้งทุนทรัพย์และอำนาจในองค์กรอิสระ ที่สั่งประหารชี้ชะตาทางการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรีและนักการเมืองทุกค่ายทุกสีมาแล้ว
เห็นได้ชัดเจนว่าเครือข่าย “ลุงป้อม” เริ่มปฏิบัติการทันควันด้วยการร่อนหนังสือ โร่ร้องไปยังองค์กรอิสระถึงความผิดปกติทางกฎหมายทุกเม็ด เรียกว่าหวี่ยงแหเอาไว้ก่อน และอาจจะสำเร็จได้ในเหมือนในอดีตคดีที่ “นายสมัคร สุนทรเวช” ที่โดนมาสอยให้ตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาแล้ว ปมว่าด้วย “ลูกจ้าง ค่าตอบแทน” จากการไปจัดรายการ โทรทัศน์ “ชิมไปบ่นไป” ซึ่งเป็นคดีตัวอย่าง
นี่ยังไม่รวมคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ที่ออกอาการน้อยใจ ตั้งโต๊ะแถลงเปิดประเด็นร้อน ประกาศขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ หลังพลาดตำแหน่ง ขอออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระ พร้อมเปิดข้อมูลความลับชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่เคยขึ้นไปเยี่ยมและได้พบ “นายใหญ่ทักษิณ บ้านจันทร์ส่องหล้า” ถึง 2 ครั้ง โดยได้เปิดแชทไลน์การติดต่อและให้รอดูไฮไลต์ในครั้งต่อไป
นอกจากข้อมูลที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” รอแฉแล้วยังมีเกมการปล่อยข่าว ว่า “คนบ้านป่า มีคลิปทั้งภาพและเสียงชัดเจน ทุกช็อต” ในบ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่14 ส.ค.ที่ “ทักษิณ”เปิดปฏิบัติการชิงจังหวะรวบตึงการจัดตั้งรัฐบาลขั้วเดิม เรียกประชุมหัวหน้าพรรคต่างๆ เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ทันทีหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง สั่งให้“นายเศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไร้จริยธรรม กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี
ถ้าคลิปนี้มีจริงจุดนี้ถือเป็นไม้ตาย งานนี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ตายเดี่ยว แต่จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมการสั่งหารหมู่ ล้างไพ่ให้พรรคร่วมรัฐบาล ถ้าถูกข้อหาครอบงำ
ถ้าจับชีพจรรัฐบาลแพทองธาร แม้จะวางไทม์ไลน์ ครม.แพทองธาร 1 ไว้ที่ ต้นเดือนกันยายน โดย“นายกฯแพทองธาร” จะนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ และเมื่อมีการโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนถวายสัตย์ปฏิญาณตนของครม. โดยคาดว่า วันที่ 5 ก.ย.จะเป็นการประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อให้ความเห็นชอบร่างนโยบายรัฐบาล ในวันที่ 11 ก.ย.จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจากนั้นรัฐบาลแพทองธารจะเริ่มนับหนึ่งในการบริหารราชการแผ่นดินได้เต็มรูปแบบ
แต่ขณะนี้ที่ยังไม่ได้เริ่มตั้งไข่กลับกลายเป็นสภาพเหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย เพราะการเดินเกมของคุณพ่อทักษิณเป็นการทำลายศรัทธาประชาชน ทำลายระบบการเมืองแล้วในที่สุดสิ่งเหล่านี้จะกลับมาเผาผลาญตัวเอง.