เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า กระแสข่าวที่ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับคำร้องของบุคคลนิรนาม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 ยื่นคำร้องกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชิญแกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปร่วมประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง ซึ่งนายทักษิณไม่ใช่สมาชิกพรรค กระทำการครอบงำนั้น ตนเห็นว่าการที่กกต.รับคำร้องและพิจารณาว่าคำร้องมีมูล น่าจะมาจากองค์ประกอบของคำร้องที่ปรากฏภาพมีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อพบกับนายทักษิณที่เป็นบุคคนอกพรรค แต่ในรายละเอียดของการครอบงำพรรค จะต้องนำสืบต่อไปว่ามีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกหรือชี้ชัดว่านายทักษิณสั่งการครอบงำทั้ง 6 พรรคจริง ซึ่งถ้าปรากฏหลักฐานชัด โอกาสที่ทั้ง 6 พรรคถูกยุบก็มีสูง
นายเทพไท ระบุอีกว่า การที่กกต. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย เป็นกระบวนการของ กกต.ที่จะต้องเร่งหาข้อสรุปให้ได้ข้อยุติ เพราะในการครอบงำพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณถูกร้องโดยนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง และกกต.มีมติว่าคำร้องมีมูล ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อจะให้ข้อหาการครอบงำพรรค และยุบพรรคเดินไปพร้อมกัน แต่กระบวนการพิจารณายุบพรรคต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ตนก็ไม่แน่ใจว่าคดียุบพรรคเพื่อไทยกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของรัฐบาล อะไรจะมาถึงก่อนกัน ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งจากคำร้องยุบพรรค กับพ้นตำแหน่งจากอุบัติเหตุทางการเมือง หรือความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล