ไม่รู้จะร่ำไห้หรือหัวเราะดี ขณะ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ขยันไปโรดโชว์ต่างประเทศจนถูกนินทาเพื่อเชิญชวนนักธุรกิจยักษ์ใหญ่มาลงทุน ก่อนหน้านั้น ก็จัดงานใหญ่ “Ignite Thailand” กลางทำเนียบรัฐบาล ชูไทยเป็น 8 ฮับ หรือ 8 ศูนย์กลางโลก เช่น ฮับรถอีวี, โลจิสติกส์, สุขภาพ, ท่องเที่ยว, การบิน, อาหาร, การเงิน เป็นต้น อ้าว จู่ ๆ มีข่าวใหญ่ “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่ไม่รู้จะถูกปรับพ้นเก้าอี้วันนี้พรุ่งนี้ ทิ้งทวนเสนอแก้ 2 กฎหมายกลาโหม 1.พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม 2.พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร ทั้งหมด หวังป้องกันไม่ให้ทหารปฏิวัติยึดอำนาจ ก่อ “วงจรอุบาทว์” ซ้ำซากอีก มันดูย้อนแย้งสิ้นดี แต่เป็นความจริงอันน่ารังเกียจของโลกอารยะ

เรื่องระเบียบแต่งตั้งนายพล ต้องมี 3 คุณสมบัติ ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ทำธุรกิจกับกองทัพ ไม่โดนคดีอาญา ธรรมดามาก ที่เรียกเสียงวิจารณ์คือ จะให้อำนาจนายกฯ โดยความเห็นชอบของครม.สั่งพักราชการทันที ถ้าปรากฏ “ข้อเท็จจริง” ว่า ทหารคนไหน ใช้กำลังยึดหรือควบคุมอำนาจบริหารจากรัฐบาลหรือเพื่อการกบฏ พูดง่าย ๆ ปฏิวัติ นั่นล่ะ นักการเมือง แค่ “เชื่อได้ว่า” ทำผิด ศาลก็สั่งติดคุกแล้ว นี่ต้องปรากฏหลักฐานข้อเท็จจริง ถึงสั่งพักได้นะ

อีกข้อคือ รมว.กลาโหม โดยความเห็นชอบของ ครม. มีอำนาจแต่งตั้งบอร์ดพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ จากเดิม 3 คน เป็น 5 คน เพื่อคานอำนาจทหาร ที่มีเสียงมากกว่าคือ 3 ผบ.เหล่าทัพ บวก ผบ.สส. บวก ปลัดกลาโหม รวมเป็น 5 เสียง ขณะรัฐบาลมี รมว.กลาโหม 1 เสียง หากมี รมช.ก็เป็น 2 เสียง โหวตไง จึงแพ้ทุกครั้งไป 5 ต่อ 2 (มรดกจากการปฏิวัติ) การแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ จึงหลุดจากอำนาจนายกฯ ที่เป็นพลเรือนสิ้นเชิง ผบ.เหล่าทัพ คือ รัฐอิสระ ของจริง แต่ใด ๆ คือ แม้จะเสนอแก้ไขกฎหมายกลาโหม แล้วไง

ป้องกันวงจรอุบาทว์ได้จริงหรือ?!?

เสียงนักวิชาการส่วนใหญ่ รวมทั้ง ผู้เชี่ยวชาญการทหารแทบจะหนึ่งเดียวของไทย .ดร.สุรชาติ บำรุงสุข มองไปทางเดียวกัน เป็นการเร่งสร้างผลงานให้คนเห็น หลังมีข่าวปรับ ครม. มากกว่า แต่ป้องกันการปฏิวัติไม่ได้หรอก

อย่างที่รู้ แม้จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่เฉลี่ยแล้วไทยยังเจอปฏิวัติเฉลี่ย 4-5 ปีต่อครั้ง แค่ 10 ปีหลัง 2549 คมช. ยึดอำนาจแล้ว ยังซ้ำอีกครั้ง 2557 โดย คสช. แล้วมีรัฐบาล 3ป.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำครองเมืองเกือบทศวรรษ การเมืองได้ปฏิรูปอะไรบ้าง นอกจากจีดีพีไทยแทบโตต่ำสุดในอาเซียน ความเหลื่อมล้ำสูงติดอันดับโลก มีรัฐธรรมนูญสุดอัปยศ เป็นภาระต้องใช้เงินเป็นหมื่นล้านแก้ไข แต่ก็ยังแก้ยากโคตร ๆ อีก สว.ที่จะได้ใหม่ เขียนกติกาเทวดายังงง เลือกกันเอง เลือกไขว้ เลือกไต่ ใครอยากไปเลือก สว. ต้องเสีย 2,500 บาทอีก ทุเรศสุด ๆ แล้ว ยังได้รัฐราชการสมบูรณ์แบบอีก

คนเลยอยากเปลี่ยนโครงสร้างการเมืองไง ดูจากไหนก็ผลเลือกตั้งล่าสุดสิ แต่นั่นล่ะอำนาจอนุรักษ์ไทยฉลาดเป็นกรด (กรดกัดกร่อนได้ไง) ถึงมีกระแส “ดีลลับ แลกทักษิณ กลับบ้าน” เพื่อไทยยอมตระบัดสัตย์ ข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลพรรค 2 ลุง ขณะ ก้าวไกล กำลังจะถูกยุบพรรคเร็ววันนี้ แม้ตั้งพรรคใหม่ได้แต่คงอ่อนล้าลง งูเห่าอาจเพ่นพ่านอีก (แล้ว)

กลับมาที่ข้อเสนอ รมว.กลาโหม สุทิน คลังแสง (หากยังไม่โดนเด้ง) เอาเข้าจริง ก็บอกเป็นแค่ข้อเสนอจากคณะทำงานที่ตั้งมา ยังต้องเข้าสภากลาโหม เสนอ ครม.แล้วเข้าสภาอีก คือยังอีกยาวไกล แล้วถึงผ่าน ก็ไม่มีผลลัพธ์ อย่างว่า อย่าลืมที่สุดของการปฏิวัติทุกครั้งคือ ทหารที่ยึดอำนาจ ไม่เคยต้องรับโทษ นิรโทษกรรมตัวเองได้ทุกครั้งไป เหนืออื่นใด ศาลวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว ยึดอำนาจสำเร็จ คือ รัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจเหนือทุกองค์กร แล้วนายกฯจะไปปลดใครไม่ทราบ มีแต่เก็บของกลับบ้าน หรือไม่ก็เจอวิบากกรรม เช่น ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ไร้แผ่นดินอยู่

กระบวนการยุติธรรม จึงเป็นอีกวาระแห่งชาติ ที่รอรัฐบาลเพื่อไทยและนายกฯ เศรษฐา แก้วิกฤติ แต่กลับไม่เคยมี “โรดแม็ป” เลย (ตำรวจเลยเละตุ้มเป๊ะไปแล้วหนึ่ง) เหมือนกองทัพ ธุรกิจอยู่ครบ นายพลอยู่ครบ เรือดำน้ำอยู่ครบ เป็นบิ๊กทุกเหล่าทัพครบ สิ่งที่คนไทยจะได้คือ สื่อจะได้คำพาดหัวใหม่ จากนายกฯ นิด เป็น บิ๊กนิด เมื่อควบเก้าอี้ รมว.กลาโหมด้วย ขณะ บิ๊กทิน กลับไปเป็น นายสุทิน คลังแสง อย่างเก่า เมื่อไร้หัวโขน

สูงสุดคือสู่สามัญ…อีกครั้ง.

……………………………………..
ดาวประกายพรึก

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…