กลายเป็นเรื่องวุ่น ๆ บานปลายไม่จบง่าย ปัญหา ’ศึกบิ๊กสีกากี“ เหมือนที่ ’เชิงผา“ เคยเขียนเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ จากปลายเดือน มี.ค. 67 ที่ผ่านมา หลายคนต่างนึกไม่ถึงว่าจะมี ฟ้าผ่าฤดูร้อน ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ออกคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี 102/2567 ให้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล(นรต.47) รอง ผบ.ตร.ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ
นายกฯเศรษฐา แต่งตั้ง บิ๊กต่าย–พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (นรต.41) รอง ผบ.ตร. ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร. นอกจากนี้ยังได้ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ระบุเหตุผลว่า เกิดความขัดแย้ง เป็นที่ประจักษ์ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประชาชนทั่วไป ถึงขนาดกล่าวหาดำเนินคดีกัน ความขัดแย้งส่อจะลุกลามบานปลายจนไม่อาจจะหาข้อยุติได้ หากไม่กระทำการใด ๆ อาจจะเป็นเหตุให้ราชการ ประชาชน และประเทศชาติ เสียหายได้
“2 พล.ต.อ.” นอกจากจะถูกเด้งไปพร้อม ๆ กันแล้ว ยังต้องโดนคณะกรรมการฯสอบข้อเท็จจริงด้วย ทำให้บรรดาผู้ติดตามวงการตำรวจและคอการเมืองต่างปูเสื่อรอดู เรียกว่า อาฟเตอร์ช็อก ติดตามมาจริง ๆ ถัดมา 3 สัปดาห์ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รรท.ผบ.ตร. สะบัดปากกาเซ็นคำสั่งที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 67ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. และลูกน้อง รวม 5 นาย เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย
มูลเหตุต้นเรื่องทั้งหมด มาจากปมถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ จนถูกดำเนินคดีอาญาและศาลออกหมายจับ ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน แต่ยังเปิดโอกาสให้มีสิทธิอุทธรณ์ได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ภายใน 30 วัน และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองใน 90 วัน
ใครจะไปเชื่อ บิ๊กโจ๊ก–พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ (เกษียณราชการปี 2574) ก่อนหน้านี้มีเส้นทางชีวิตรุ่งโรจน์ จนขยับขึ้นมาเป็น รอง ผบ.ตร. อาวุโส 1 ในแคนดิเดต ชิงชัยเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 15 ต่อจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แต่สุดท้ายต้องมาเจอสารพัดมรสุมวิบากกรรมถาโถมใส่แบบชุดใหญ่ จากถูกย้ายไปสำนักนายกฯ ตั้งกรรมการสอบวินัยแล้ว ตามด้วยถูกแจ้งดำเนินคดีอาญา กระทั่งมาถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน
เรียกว่ากี่ปีผ่านไป คำเปรียบเปรยที่ถูกกล่าวขานเอาไว้ ’วงการนี้ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง มีแต่ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน“ แตกต่างจากเหล่าทัพอื่น บก-เรือ-อากาศ อย่างสิ้นเชิง แม้จะมีกระแส ปฏิรูปตำรวจ ตั้งแต่ยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำรัฐประหารยึดอำนาจ ประกาศจะยกระดับอาชีพตำรวจ แต่แวดวงสีกากียังคงเหมือนเดิม
ควันหลงนับจากนี้ยังต้องรอดู พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เจ้าของนโบาย Quick Win ทำสิ่งที่เห็นผลได้รวดเร็ว สร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรมให้เห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด ภายใต้แนวคิด ’Police‘s Home เราดูแลคุณ (ตำรวจ) เพื่อให้คุณไปดูแลประชาชน” บริหารมาได้ 7 เดือน อีกนิดเดียวจะถึงปลายทางชีวิตราชการก็ต้องมาสะดุดเสียก่อน ไม่มีใครตอบได้ บทสรุปศึกบิ๊กสีกากี ครั้งประวัติศาสตร์จะลงเอยเช่นไร?
แต่ที่แน่ ๆ มีผลต่อแคนดิเดต “ผบ.ตร.คนที่ 15” อย่างแน่นอน บรรดา “รอง ผบ.ตร.” ยังเหลืออยู่ตอนนี้ ไล่เรียงดูชื่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รรท.ผบ.ตร. เกษียณ ปี 2569, พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ (นรต.42) เกษียณ ปี 2569 และ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง (นรต.39) จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณ ปี 2568 ใครจะบุญพาวาสนาส่ง ฝ่าด่านอรหันต์ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ “พิทักษ์ 1” ต้องลุ้นจับตา!!.
…………………………………..
เชิงผา
