ตอนที่แล้ว “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้สะท้อนต่อข้อมูลจาก รายงานฉบับสมบูรณ์ตลาดการค้ายาเสพติดในประเทศไทย (The illegal drugs market in Thailand)ที่ศึกษาวิจัยไว้โดย กนิษฐา ไทยกล้า สถาบันวิจัยวิทยา ศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทุนสนับสนุนของ ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ฉายภาพ “ตลาดการค้ายาเสพติดในประเทศไทย“ ซึ่งรายงานนี้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อเดือน ก.ค. 2565 โดยเป็นการ “ศึกษาตลาดการค้ายาเสพติดในไทย” ปี 2560-2564 ทั้งนี้ รายงานนี้มีข้อมูลน่าพิจารณาหลายประเด็น รวมถึง…

กลยุทธ์ของ นักค้ายาเสพติดยุคใหม่“
ที่ นำกลยุทธ์จึ้ง ๆ มาทำการตลาด!!“

ในรายงานเกี่ยวกับ “ตลาดการค้ายาเสพติดในไทย” ฉบับดังกล่าว ได้มีการเผยข้อมูลที่พบจากการศึกษาวิจัยไว้ว่า… สำหรับ “ลักษณะเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด“นั้น สามารถ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่… กลุ่มแรก “เครือข่ายข้ามชาติที่มีนายทุนเป็นชาวต่างชาติ” กลุ่มที่สอง “เครือข่ายผู้ค้าคนไทย” กลุ่มที่สาม “เครือข่ายชาวไทยร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์”

นอกจากเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในตลาดการค้ายาเสพติดในประเทศไทยจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม 3 ลักษณะแล้ว ในแต่ละเครือข่ายยังมีการแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ ทั้งหมด 3 ระดับคือ…รายใหญ่ รายกลาง และรายย่อย โดยจะมีคนทำหน้าที่ต่าง ๆ และมีบทบาทต่าง ๆ ในวงจรการค้ายาเสพติด ที่แตกต่างกันออกไป หลักใหญ่ใจความมีดังต่อไปนี้…

รายใหญ่” นั้น ในวงจรการค้ายาเสพติดจะ ประกอบด้วยผู้ค้า นายทุน นายหน้าในประเทศไทย ที่มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยจะมีคนกลางทำหน้าที่ประสาน ระหว่างนายทุน นายหน้า และผู้ค้ารายใหญ่ในประเทศ เพื่อกระจายยาเสพติดต่อไปยังผู้ค้ายารายกลาง รายย่อย และผู้เสพ หรือส่งไปยังเครือข่ายการค้าประเทศอื่นต่อไป

ส่วน “รายกลาง” นั้นก็จะ ประกอบด้วยผู้ค้า ผู้ประสานงานที่ทำหน้าที่ในการจัดหาที่พักยาเสพติด จัดหาทีมลำเลียง ทีมนำทาง ทีมคุ้มกัน ทีมหลอก ทีมเจรจา ทีมคนโยน ทีมนำยาเสพติดไปวางจุดนัดหมาย ทีมส่งยาเสพติด และทีมเก็บเงิน เป็นต้น เพื่อกระจายยาเสพติดไปยังผู้ค้ารายย่อย หรือผู้เสพต่อไป และ “รายย่อย” ในวงจรการค้ายาเสพติดก็จะ ประกอบด้วยผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ ผู้ค้าบนอินเทอร์เน็ต คนเดินยา เพื่อกระจายยาเสพติดไปสู่ผู้เสพ…

นี่เป็น “ตัวละคร” วงจร “ค้ายาเสพติด”

และ…นอกจากกรณี “ตัวละครในวงจรค้ายาเสพติด“ ที่ก็ “ยุ่บยั่บชวนอึ้ง“ แล้ว…ที่ “ชวนให้อึ้งมากยิ่งขึ้น“ นั่นก็คือ… “กลยุทธ์สุดจึ้งต่าง ๆ ที่ผู้ค้ายาใช้“ซึ่งในรายงานนี้ชี้ไว้ว่า… มีวิธีการที่หลากหลาย แถมยังใช้ทฤษฎีการตลาดมาประยุกต์ด้วยเพื่อจะดึงดูดใจผู้ซื้อและนักเสพที่แตกต่างกัน อีกทั้ง แต่ละชนิดยาเสพติดก็จะมีกลยุทธ์ที่ต่างกัน ดังนี้…

ยาไอซ์” จะนิยมใช้วิธี “แบ่งขาย” หรือในวงการเรียกรูปแบบการขายนี้ในชื่อว่า “งานแบ่ง” โดยผู้ค้าจะแบ่งยาเป็นปริมาณต่าง ๆ อาทิ กั๊ก กรัม กิโลกรัม ก้อน อัน และชุด ส่วนกลยุทธ์ราคาจะนิยมตั้งราคาขายแบบยืดหยุ่น เพื่อให้ซื้อง่ายขึ้น หรือหากตั้งราคาพรีเมียม ก็จะขายพร้อมอุปกรณ์การเสพ, ยาอี” ที่ผู้ค้ายานิยมใช้ก็จะมีอาทิ กลยุทธ์ด้านราคา ด้วยการตั้งราคาแบบเลขคู่ด้วยตัวเลขจำนวนเต็ม โดยราคายาอีในตลาดออฟไลน์จะมีราคาถูกกว่าตลาดออนไลน์เล็กน้อย ส่วนกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดที่นิยมใช้ จะใช้กลยุทธ์ที่เน้นไปสู่ผู้ขาย โดยผู้ส่งยาจะได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเมื่อทำงานได้สำเร็จ

“ยาเค” กลยุทธ์ที่ผู้ค้ายาชนิดนี้นิยมใช้ จะเน้นที่การส่งเสริมการตลาด ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ลดราคาขาย และให้ส่วนลด เมื่อซื้อยาในปริมาณมาก โดยผู้ค้ายาเคส่วนใหญ่จะเน้นกลยุทธ์ที่มุ่งไปสู่ผู้ขายปลีก หรือผู้ค้ายารายย่อย, “จีเอชบี” ผู้ค้ามักจะนิยมขายในรูปของสารละลายในน้ำ โดยกลยุทธ์ด้านราคาที่นิยมคือ ตั้งราคาขายตามคู่แข่ง หรือไม่ก็ตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลขศูนย์ ส่วนช่องทางการขายยาเสพติดชนิดนี้ ผู้ค้ามักจะนิยมขายบนเว็บไซต์ และทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนช่องทางการจัดส่งนั้น มักจะ จัดส่งแบบดิลิเวอรี่ ผ่านบริษัทขนส่งเอกชน หรือหากขายออฟไลน์ ก็นิยมนำยาไปกระจายตามสถานบันเทิง

ส่วน “ยาบ้า“ที่ยุคนี้ เป็นปัญหาที่สุด และระบาดรุนแรงที่สุดในไทยในเวลานี้นั้น รายงานฉบับดังกล่าวก็ได้มีการเปิดเผยถึงผลศึกษาไว้ โดยพบว่า… ยาที่นิยมขายในตลาดนั้น มักจะมีลักษณะเป็นเม็ดสีส้ม และสีเขียว ส่วนบรรจุภัณฑ์ยาที่นิยมใช้นั้น แบ่งเป็นการขายส่ง จะนิยมบรรจุยาบ้าใส่ในกระสอบ ถุงพลาสติก กระเป๋าหรือเป้ ห่อกระดาษ กล่องกระดาษ ถุงขยะ กล่องพลาสติก ถังพลาสติก กล่องโฟม และกระป๋อง เป็นต้น ส่วนการขายปลีก มักจะบรรจุใส่ในซองซิปขนาดเล็ก

ขณะที่ “กลยุทธ์ที่นิยมใช้ขายยาบ้า” ส่วนใหญ่ผู้ค้าจะใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ดังนี้… ด้านราคา มักใช้วิธีตั้งราคาตามแนวภูมิศาสตร์ หรือตั้งราคาตามเขต เช่น ถ้าอยู่ใกล้แหล่งผลิต ยาก็จะมีราคาถูกลง เป็นต้น หรือบางครั้งก็อาจตั้งราคาขายให้ดูแพง เพื่อให้ดูเป็นยาเกรดพรีเมียม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อหรือนักเสพเกี่ยวกับคุณภาพของยา ส่วนกลยุทธ์ ด้านส่งเสริมการขาย มีตั้งแต่ลดราคาให้ผู้ขายรายย่อย ให้เงินส่วนแบ่งเพิ่มเมื่อขายหมด รวมถึง ให้ของแถม หรือสามารถ จ่ายเงินดาวน์แล้วรับยาไปก่อน แล้วจึงค่อยผ่อนชำระส่วนที่เหลือ …นี่เป็น “มุมศึกษาวิจัย” ที่ฉายภาพ “วงจรการค้ายาเสพติดในไทย“

มีการ นำเอาทฤษฎีการตลาดมาใช้“
“ใช้กลยุทธ์สุดจึ้ง“ ผลักดันยอดขาย
“ครบวงจร…ทั้งกับผู้ขาย-ผู้เสพ!!“.