นับตั้งแต่การประชาพิจารณ์ของสส.สหรัฐฯเกี่ยวกับ Tiktok เมื่อวันที่ 23 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในเส้นทางอนาคตของ Tiktok จากรายงานข่าวของ BBC ผู้แทนพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันต่างแสดงความอคติต่อ Tiktok และ Shou Zi Chew ( CEO Tiktok ) เนื่องจากทั้ง 2 พรรคมีความกังวลว่าข้อมูลของประชาชนชาวอเมริกันจะตกอยู่ในมือของรัฐบาลจีนผ่าน Tiktok นอกจากนี้พวกเขายังกังวลในเรื่องของการดูแลเนื้อหาต่างๆใน Tiktok เช่น เนื้อหาที่ชี้นำในการทำร้ายตนเอง ,ข้อมูลเท็จ และข้อมูลที่เป็นอันตรายต่อเด็ก

ในขณะที่จีนและสหรัฐฯโต้เถียงกันในประเด็นของ Tiktok ภายในประเทศสหรัฐฯเองก็เกิดกระแสวิจารณ์ขึ้นเช่นเดียวกัน ฝ่ายสนับสนุนคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลของประชาชนและความมั่นคงของชาติ และสภานิติบัญญัติแห่งรัฐมอนทานาได้ออกคำสั่งห้ามทั่วทั้งรัฐเป็นรัฐแรก แต่ฝ่ายค้านกล่าวว่า “การร่างกฎหมายห้ามใช้ Tikotok นั้นเป็นการละเมิดสิทธิความอิสระในการแสดงความเห็นของพวกเขา” ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้ Tiktok จำนวนมาก ,คนดัง และสมาชิกรัฐสภาบางท่านก็ได้ออกมาประท้วงเช่นกัน Robert Garcia สส.รัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่าเขาใช้ Tiktok ในการสื่อสารกับสมาชิกของชมรม LGBTQ+ ,วุฒิสมาชิก Bob Casey แห่งรัฐเพนซิลเวเนียกล่าวว่าเขาใช้ Tiktok ในการรวบรวมผลการเลือกตั้ง และ Jamaal Bowman สส.แห่งนิวยอร์กยังได้จัดแถลงข่าวนอกสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับประโยชน์ต่างๆจาก Tiktok

เสียงวิจารณ์ภายในประเทศของจีนเกี่ยวกับการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นก็เป็นเอกฉันท์ พวกเขาคิดว่าสหรัฐฯกำลังใช้อิทธิพลของตนเองเพื่อจำกัดการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างประเทศ และยังทำโปสเตอร์ล้อเลียนเพื่อแสดงความโกรธ

อย่างไรก็ตามไม่ว่ากระแสการวิจารณ์ของประชาชนทั้งสองประเทศจะเป็นอย่างไร เชื่อว่ารัฐบาลทั้ง 2 ประเทศจะพยายามหาจุดตรงกลางเพื่อยุติปัญหานี้ Shou Zi Chew ( CEO Tiktok ) กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทแม่ในปักกิ่งเข้าถึงข้อมูลของ Tiktok ในสหรัฐอเมริกา มาตรการเหล่านี้จะพยายามลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากจีนให้ “เป็นศูนย์” ให้ได้มากที่สุด ชะตากรรมของ Tiktok ในสหรัฐฯจะเป็นไปในทางไหน จะมุ่งไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นหรือไม่ หรืออาจถูกแบนต่อไป ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ใดๆได้เลย