ซึ่งจากรายงานข่าวเบื้องต้น ตาย 2 ราย จาก 7 ราย ที่ร่วมวงกิน “แมงดามีพิษ”… ทั้งนี้ แน่นอนว่ากรณีกัมมันตรังสีนั้นน่ากลัวมาก…และก็ต้องรอดูกันว่าไทยจะมีการ “ล้อมคอก” แบบใด?-หรือไม่? อย่างไรก็ตาม วันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ขอเปิดแฟ้มเตือนย้ำ “อันตรายจากการกิน” ซึ่งต้องย้ำว่า “มีอยู่มากใกล้ตัวคนไทย!!”…

“ภัยพิษจากอาหาร” นี่ยังต้อง “เตือนย้ำ”

ยังมีคนไทย “ร่อแร่” หรือถึงขั้น “ถึงตาย”

ทั้งนี้ กรณี “ภัยพิษจากอาหาร” นั้น…ถ้าโฟกัสวัตถุดิบปรุงอาหารที่ไม่ใช่แมงดาทะเล ไม่ใช่สัตว์ต่าง ๆ ที่มีพิษ…ที่จะข้ามไปโดยไม่พูดถึงไม่ได้คือ “เห็ดมีพิษ” ที่มัน ส่งผล “ถึงตายได้” ซึ่งก็ขอเตือนย้ำว่า อย่าเก็บหรือซื้อเห็ดที่มีลักษณะต่อไปนี้มาทำอาหารเด็ดขาด นั่นคือ… มีสีฉูดฉาด สีเข้มจัด เช่น แดง ส้ม ดำ มีแผ่นหรือเกล็ดขรุขระ บนส่วนที่เรียกว่าหมวกเห็ด มีวงแหวนพันรอบ บนส่วนก้านดอกเห็ด มีขนหรือหนามเล็ก ๆ กระจายอยู่ มีกลิ่น น้ำเมือก หรือน้ำยางสีขาวออกมา เมื่อกรีดที่หมวกเห็ด และ ครีบใต้หมวกมีสีขาว สปอร์ในครีบมีสีขาว นี่ก็อยู่ในข่ายที่มีหน่วยงานเตือนไว้ว่าเป็น “เห็ดพิษ”

และไม่เพียงเห็ดพิษดังที่ระบุมา…พืชต่าง ๆ ที่ “ก่อให้เกิดอันตรายจากการกินได้” ยังมีอีกหลายอย่าง รวมถึงที่ปกติก็มีการกินกันอยู่ เช่น… “กลอย” ที่ก็มีการเตือนไว้ว่ามีพิษแฝงอยู่ โดย มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง และถัดมา “ลูกเนียง-ชะเนียง” ที่มีกรดที่ มีกำมะถันสูงมาก…สามารถเป็นพิษต่อร่างกาย โดย ทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อม หากกินดิบ ๆ มาก ๆ จะทำให้ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะไม่สะดวก หรือปัสสาวะไม่ออก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง ซึ่ง…

ถ้าอาการรุนแรงมาก “ไตอาจล้มเหลว”

อาการรุนแรงมาก ๆ ทำให้ “ถึงตายได้”

“ลำโพง-มะเขือบ้า” นี่ก็มีหน่วยงานเตือนไว้ว่าเมล็ดและใบมีสารเป็นพิษ กินเข้าไปจะทำให้ลิ้นแข็ง หัวใจเต้นเร็ว ซึ่งแม้ยังไม่พบรายงานชัดเจนว่าทำให้ถึงตาย…แต่ก็มีข้อมูลวิชาการเตือนไว้ว่า ทำให้ “เสียสติคล้ายคนบ้าได้” ขณะที่ “มะม่วงหิมพานต์” ก็มีการเตือนไว้ว่า ยางจากเปลือกมีสารในรูปของคาร์ดอล และกรดอนาคาร์ดิค ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นเป็นแผลได้ และ เมล็ด…ถ้ากินดิบ ๆ มักทำให้อาเจียนรุนแรง ส่วน กลิ่น-สารระเหยจากการคั่วเมล็ดก็ทำให้ “หลอดลมอักเสบได้”

พืชกลุ่ม “มัน” นี่ก็มีที่มีพิษ…อย่าง “มันสำโรง” และมันที่คุ้นเคยกันดีอย่าง “มันสำปะหลัง” นี่ก็ด้วย!! โดยส่วนที่มีพิษมากที่สุดคือเปลือกและหัว มีกรดไฮโดรไซยานิค …นี่ก็ต้องเตือนย้ำไว้ว่า กินดิบ ๆ อาจจะได้รับพิษทำให้ “ถึงตายได้”

ต่อด้วยในส่วนของ “สัตว์” ที่ก็มีการเตือนไว้ว่า “มีพิษที่ก่ออันตรายจากการกิน” ได้ ซึ่งก็อย่างเช่น… “คางคก” ที่ในบางพื้นที่ในไทยก็มีการกิน ซึ่งก็มีหน่วยงานเตือนไว้ว่า… เป็นสัตว์มีพิษชนิดหนึ่ง มีต่อมพิษที่มีน้ำพิษอยู่ข้างหู และก็ยังมีสารพิษในเลือด-ในไข่ ซึ่งพิษเหล่านี้ถูกความร้อน 100 องศาเซลเซียส ก็ไม่สลายตัว สารพิษจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง มีอาการทางจิตประสาท ชักและหมดสติได้ ทำให้การหายใจติดขัด หัวใจจะเต้นช้าลง เต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าได้รับพิษจำนวนมาก ระบบไหลเวียนโลหิตจะล้มเหลว “ถึงตายได้” ฉะนั้น…ต่อให้ชำนาญในการนำมาทำอาหาร ก็ต้องระวังให้จงหนัก

“ปลาปักเป้า” นี่ก็เคยมีกรณีเป็น “อาหารมรณะ” เพราะมีสารพิษที่เรียกว่าเทโทรโดท็อกซิน หรือเท็ตโทรโดท็อกซิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อเนื้อเยื่อประสาท ทำให้เซลล์ประสาททุกส่วนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ สารพิษนี้มีอยู่มากในส่วนตับ รังไข่ ลำไส้ และหนังของปลาปักเป้า อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญระบุเตือนไว้ว่า ปลาปักเป้านั้นมีพิษอยู่ทั่วตัว ดังนั้น…

เพื่อความปลอดภัยก็ควรต้องเลี่ยง “กิน”

เพราะ…สามารถ “ส่งผลร้ายถึงตายได้!!”

ส่วนกรณี “แมงดาทะเล” ที่พบมากในทะเลไทยนั้นมี 2 ชนิด คือ แมงดาจาน หรือแมงดาหางเหลี่ยม และแมงดาถ้วย หรือแมงดาหางกลม โดยชนิดหลังนี่ที่ผ่านมามีเหตุ “กินแล้วถึงตาย” อยู่เนือง ๆ อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็เกิดเหตุขึ้นอีก ซึ่งก็มีการเรียกว่า “แมงดาไฟ” หรือ “เหรา” โดยการเป็นพิษมักเกิดช่วงเดือน ก.พ.-ก.ย. เกิดจากการที่แมงดากินหอยที่กินแพลงตอนที่มี “สารพิษ” แล้วพิษก็สะสมอยู่ในตัว ในเนื้อและในไข่ เมื่อคนกินแมงดาที่มีสารพิษก็ทำให้ได้รับพิษ…แม้ว่าจะปรุงสุกดีแล้วก็ตาม ซึ่งอาการคนที่ได้รับสารพิษเข้าไปคือ มึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว ปากชา พูดไม่ได้ แขนขาอ่อนเปลี้ย กล้ามเนื้อไม่ทำงาน หมดความรู้สึก และ หากพิษรุนแรงก็อาจ “ถึงตายได้” ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป

ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่ “น่าคิด” และ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็จะ “ชวนคิด” คือ… นอกจากจะมีพืชและสัตว์ที่มีพิษโดยผลิตสารพิษขึ้นเองแล้ว ทั้ง “พืช-สัตว์” ยังอาจ “รับสารพิษจากภายนอกเข้าไปสะสมไว้ได้” อย่างกรณีแมงดาทะเลมีพิษ ซึ่ง “โลกยุคปัจจุบันนับวันจะล้นไปด้วยพิษต่าง ๆ” ทั้งที่ “เกิดจากมนุษย์โดยตรง และโดยอ้อมจากการที่มนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อมจนธรรมชาติผิดเพี้ยน” กับกรณี “อาหารมีพิษ!!-อาหารมรณะ!!” นี่ “ยิ่งร้ายขึ้น??” ใช่หรือไม่?? ซึ่ง…

จะใช่?-ไม่ใช่?…ยังไงก็คง “ยิ่งต้องกลัว!!”

และก็ “มิใช่กลัวแค่กินอาหารที่มีพิษ”…

“ต้องกลัวทำให้อาหารมีพิษด้วย!!!!”.