เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) และเลขาธิการพรรค ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 กล่าวถึงการประชุม กมธ.งบประมาณฯ ว่า ตนเข้าใจบรรยากาศประชุมในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาจจะบางส่วนเข้ามาชี้แจงได้และบางส่วนเข้ามาชี้แจงไม่ได้ ซึ่งในช่วงเช้าที่มีการหารือในที่ประชุมกมธ.งบประมาณฯ โดย กมธ.ซีกพรรค พท. ยกประเด็นการชี้แจงงบประมาณของกระทรวงหรือกรมต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งให้ผู้บริหารกระทรวงหรือผู้บริหารของหน่วยงานที่รับงบประมาณ ได้มาชี้แจงงบประมาณในห้องประชุม กมธ.งบประมาณฯ ซึ่ง กมธ.ซีกพรรค พท. ไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนี้กับ กมธ.ซีกรัฐบาล เพราะการให้ผู้บริหารกระทรวงและผู้บริหารหน่วยรับงบประมาณเข้ามาชี้แจงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพิจารณางบประมาณ ยืนยันว่า มีการจัดพื้นที่ให้เพื่อความเหมาะสม ซึ่งในห้องประชุมคณะอนุ กมธ.ประมาณฯ ทั้ง 9 คณะ ยังมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาชี้แจงเช่นกัน

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. กล่าวว่า การกระทำในลักษณะที่ไม่ยอมให้ผู้บริหารหน่วยเข้าชี้แจงในห้อง กมธ.งบประมาณฯ นั้น ไม่เหมาะสมและจะเกิดข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการพิจารณางบประมาณได้ รวมถึงมีความผิดปกติ เพราะในห้องอนุกรรมาธิการหัวหน้าส่วนราชการก็มาชี้แจงเองทั้งนั้น จึงมองว่าการกระทำแบบนี้เป็นเหมือนเป็นการปิดประตูตีแมว ทั้งนี้ เหตุผลที่มีความพยายามไม่ให้หัวหน้าส่วนราชการเข้าชี้แจง เนื่องจากวันที่ 19 ก.ค.นี้ จะมีงบกระทรวงกลาโหมเข้าสู่การพิจารณา โดยมีวงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท ยืนยันว่าในงบปี 65 ยังคงมีงบในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำจากจีน จึงมีความพยายามจะผ่าน โดยไม่ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้ามาชี้แจง แต่ทางกลับกันวานนี้ (15 ก.ค.) งบประมาณของเหล่าทัพ ได้เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพก็มาชี้แจงด้วยตนเองครบทุกเหล่าทัพ

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันตนมีหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำนั้น พบว่า มีนายหน้าคนไทยอักษรย่อ อ. เป็นตัวกลางประสาน และยังทราบมาด้วยว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นการซื้อผ่านระบบจีทูจีหรือไม่ เหตุใดถึงมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

“รัฐบาลทำไมใจดำแบบนี้ถึงจะซื้อเรือดำน้ำให้ได้ในสภาวะที่คนอดอยากหิวโหยแบบนี้ ท่ามกลางการเสียชีวิตของประชาชนจากการติดเชื้อ วันนี้ผมต้องมาฟ้องประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของงบประมาณ พวกผมสู้ด้วยชีวิต เอาชีวิตเข้าแลก ไม่ยอมให้ผ่าน ขัดขวางยังไงก็จะสู้เพื่อประชาชน และมีหลักฐานเด็ดต่อสู้ แม้กองทัพเรือจะฟ้องก็ไม่หวั่น เพื่อรักษาศักดิ์ศรีประชาชน พวกผมเลือกประชาชนไม่เอาเรือดำน้ำ” นายยุทธพงศ์ กล่าว.