สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมเจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมาร และคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ไปยังกรุงเอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ เพื่อทรงเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ครั้งที่ 6 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีนางนิโคลา สเตอร์เจียน รัฐมนตรีที่ 1 ของสกอตแลนด์ และนางอลิสัน จอห์นสโตน ประธานสภา เฝ้าฯ รับเสด็จ
นางนิโคลา สเตอร์เจียน รัฐมนตรีที่ 1 ของสกอตแลนด์ เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเริ่มพระราชดำรัส ด้วยการตรัสว่า พระองค์และพระราชสวามีซึ่งสิ้นพระชนม์ไปแล้ว คือเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ทรงมีความทรงจำที่ดีมากมาย ทุกครั้งที่เสด็จฯ มาประทับในสกอตแลนด์ 
ต่อจากนั้น พระองค์ตรัสว่า สายตาของชาวโลกจะจับจ้องมากที่สหราชอาณาจักรมากเป็นพิเศษในเดือน พ.ย.นี้ โดยเฉพาะที่เมืองกลาสโกว์ เมืองใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( ยูเอ็นเอฟซีซีซี ) ครั้งที่ 26 หรือ "คอป 26" 
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระราชดำรัสเปิดการประชุมสภาของสกอตแลนด์ ที่กรุงเอดินบะระ
ด้วยเหตุนี้ พระองค์ทรงหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าการประชุมครั้งสำคัญระดับโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการแสดงศักยภาพของสกอตแลนด์ ในเรื่องการร่วมขับเคลื่อนนโยบายสิ่งแวดล้อมกับชาวโลก โดยเฉพาะกับกลุ่มคนหนุ่มสาว เพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนถึงคนรุ่นหลัง ขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงยืนยันว่า พระองค์และพระราชโอรส คือเจ้าฟ้าชายชารล์ส และเจ้าชายวิลเลียม พระราชนัดดา จะทรงเข้าร่วมงานนี้ด้วย
อนึ่ง สกอตแลนด์เพิ่งมีสภาเป็นของตัวเอง เมื่อปี 2542 หลังก่อนหน้านั้นอยู่ร่วมกับสภาสามัญ ในกรุงลอนดอนมาตลอด ขณะที่พรรคชาตินิยมสกอตแลนด์ ( เอสเอ็นพี ) ซึ่งตอนนี้เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลสกอตแลนด์ ยืนยันว่า หากประกาศเอกราชสำเร็จ จะยังคงให้ความเคารพสถาบันในฐานประมุขต่อไป.  

เครดิตภาพ : AP