เมื่อวันที่ 19 ต.ค.กรณีพระนักเทศน์ชื่อดัง อย่างพระ ว.วชิรเมธี ที่มีภาพถ่ายกับเหล่าบอส THE iCON GROUP และยังมีภาพการรับเงินบริจาคถึง 1 ล้านบาท และยังมีคลิปขณะเทศน์ กล่าวว่า “อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว” ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดนายธนาธร ทาคำฟู นักวิชาการด้านกฎหมาย เจ้าของเพจกฎหมายDD ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายกรณีดังกล่าวว่า บุคคลผู้จะมีความรับผิดในทางอาญาในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการฉ้อโกงประชาชนนั้น จะต้องกระทำการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และจะต้องรู้ด้วยว่า การกระทำของตนเป็นการช่วยเหลือให้ผู้อื่นกระทำความผิด
เมื่อข้อหาที่พนักงานสอบสวน แจ้งต่อบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด เป็นข้อหาฉ้อโกงประชาชนซึ่งมีสาระสำคัญของแผนการทำผิดในการจะได้ทรัพย์สินจากผู้เสียหายว่า ต้องใช้กลอุบายโดยนำเอาผลตอบแทน ในจำนวนที่สูงมากมาหลอกลวงประชาชน ให้ยอมจ่ายเงินเป็นค่าตัวแทนขายสินค้า แล้วจะได้ส่วนแบ่ง เป็นจำนวนเงินในอัตราที่สูง ผิดปกติ โดยรู้ดีว่า แท้จริงแล้ว ไม่อาจจะจ่ายผลตอบแทนดังอ้างได้ โดยมีเจตนาทุจริตมาตั้งแต่ต้น ดังนี้ หากผู้ใดทราบถึงการดำเนินการทำความผิดดังกล่าวแล้วยังเข้าร่วมช่วยเหลือ จะถือว่าเป็นผู้สนับสนุน แต่หากไม่รู้ว่าการร่วมเกี่ยวข้องด้วยในการพูดชักชวน ให้ลองลงทุนในธุรกิจของบริษัทเป็นการช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ในแผนการทุจริตผิดกฎหมาย ก็ย่อมจะถือว่าผู้พูด ไม่มีเจตนา จึงไม่มีความผิด
พระซึ่งได้รับการนิมนต์ให้ไปพูดในหัวข้อหัวใจเศรษฐี แม้จะมีข้อความที่พูดบางตอนกล่าวถึงผลสำเร็จหากร่วมลงทุนในธุรกิจของบริษัท ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์เท่านั้น
เมื่อไม่ได้เป็นหนึ่งในขบวนการทุจริตที่หวังหลอกเอาเงินจากผู้เสียหาย อันมีลักษณะที่รับรู้ว่าการกระทำของทีมงานหรือผู้บริหารบริษัท เป็นการฉ้อโกง การพูดจาโน้มน้าวหรือเชิญชวนให้มีการลงทุนจึงไม่ถือว่ามีเจตนาจะช่วยเหลือหรือร่วมกระทำความผิดด้วย ทั้งในการเป็นผู้สนับสนุนหรือตัวการ
ดังนั้น การกระทำของพระอาจารย์ ว. วชิรเมธี จึงไม่มีความผิดทางอาญา