วิธีจำกัดการแพร่กระจายของโควิด-19 ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หากท่านตัดสินใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ท่านไม่ได้อาศัยอยู่ด้วย มีบางสิ่งที่ท่านสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงของการติดหรือแพร่เชื้อโควิด-19 หลีกเลี่ยงการจูบหรือแลกเปลี่ยนน้ำลายกับบุคคลที่ท่านไม่ได้อยู่ด้วย, ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งออรัลเซ็กซ์, พิจารณาสวมหน้ากากอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อโควิด-19 ไปยังคู่ของท่าน, อาบน้ำและล้างมือและร่างกายให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์, หากท่านใช้ของเล่นทางเพศสัมพันธ์หรือเซ็กซ์ทอย ให้ล้างสิ่งเหล่านี้ด้วยสบู่และน้ำ และอย่าใช้ร่วมกับผู้อื่น, พิจารณาเทคนิคการปลุกเร้าทางเพศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสทางกาย เช่น การพูดลามกหรือการช่วยตัวเองร่วมกันขณะเว้นระยะห่าง, ลดจำนวนคู่นอนที่ท่านมีโดยรวมและ/หรือในเวลาเดียวกัน และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หรือสนิทสนมกับคู่ของท่าน หากคู่ของท่านรู้สึกไม่สบายหรือคิดว่าอาจมีโควิด-19

กลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัวและเพศสัมพันธ์ หากท่านมีอาการป่วยมีโรคประจำตัวที่ทำให้ท่านมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 แล้วมีอาการรุนแรงมากขึ้น ท่านควรระมัดระวังเป็นพิเศษในทุกด้านของชีวิต ซึ่งรวมถึงชีวิตทางเพศของท่านด้วย ท่านอาจต้องพิจารณาหยุดการมีเพศสัมพันธ์ต่อหน้าหรือเพียงแค่มีเพศสัมพันธ์กับคู่ครองที่อาศัยอยู่กับท่านและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 30 วัน หลังจากการหายป่วยจากโควิด-19 ถ้าท่านหายป่วยจากโควิด-19 ท่านอาจรู้สึกมีความสุข และท่านควรต้องรอ 30 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญเตือนประชาชนไม่ให้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ไม่ว่าจะเป็นการจูบไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 เป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือน คำแนะนำนี้เกิดขึ้นหลังจากการศึกษาของประเทศจีนพบมีไวรัสโควิดไม่เพียงแต่ในน้ำลายเท่านั้น แต่อาจพบในน้ำอสุจิได้

ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของกรมควบคุมโรคแนะนำให้อยู่เป็นโสดเป็นเวลา 30 วัน ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน (JAMA) ได้เก็บตัวอย่างน้ำอสุจิจากผู้ป่วยชาย 38 ราย ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในมณฑลเหอหนานของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับอู่ฮั่น เชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากไวรัส นักวิจัยที่วิเคราะห์ตัวอย่างพบว่าประมาณร้อยละ 16 ของผู้ชายที่ทำการสำรวจมีร่องรอยของไวรัสโควิด-19 ในน้ำอสุจิ

นักวิจัยกล่าวว่าในขณะที่ยังไม่แน่ใจว่าโรคนี้สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ แต่ประชาชนควรระมัดระวังตัวมากกว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านละอองน้ำลาย แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าไวรัสดังกล่าวมีการเพิ่มจำนวนในลูกอัณฑะของผู้ชายหรือไม่ การศึกษาของงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ว่ามีการพบร่องรอยของไวรัสในน้ำอสุจิ เนื่องจากเยื่อที่กั้นระหว่างกระแสเลือดกับส่วนของอัณฑะที่สร้างน้ำอสุจิ ดังนั้นไวรัสอาจพบทางจากเลือดไปสู่น้ำอสุจิ.

————————————-
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล