“บุญวาสนาเป็นสิ่งที่สร้างเองได้ หากไม่มีก็ทำให้มี ที่มีอยู่แล้วก็ทำให้มียิ่งขึ้นได้”
ท่ามกลางข่าวใหญ่ที่ผู้คนต่างให้ความสนใจทั่วทั้งประเทศอย่าง “คดีดิไอคอน” มันจะมีข่าวอีกข่าวหนึ่งที่ถึงแม้จะไม่ใหญ่เทียบเท่า แต่ก็มีความน่าสนใจและยังสร้างความบัดซบให้กับวงการตำรวจเข้าไปอีกด้วย
คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนเมื่อ ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย เข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาย 4 ราย พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ตัดเหล็ก เครื่องมือช่าง และรถกระบะ 1 คัน ที่ใช้ก่อเหตุลักทรัพย์เครื่องจักรขนาดใหญ่ บริเวณภายในโรงงานรับซื้อของเก่าบริษัท เปเปอร์มิ้นท์ หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สอบสวน 1 ในผู้ต้องหา ให้การว่า ได้รับคำสั่งจากนายจ้างให้เข้ามาขนเศษเหล็กซึ่งมีการตัดทิ้งไว้รอแล้ว เพื่อนำไปขายที่โรงรับซื้อของเก่าในพื้นที่ จ.ระยอง ส่วนคนที่ว่าจ้างไม่เคยเจอหน้า โดยจะรับคำสั่งการผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งจะเรียกผู้สั่งการว่า “ผู้กอง” ก่อนถูกจับกุมได้รับคำสั่งให้มาขนของแต่ยังไม่ทันได้เคลื่อนย้ายก็ถูกบุกจับกุมดังกล่าวแล้ว
หลังสำรวจความเสียหายพร้อมกับเจ้าของโรงงาน พบว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานรับซื้อของเก่าและรีไซเคิล มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ บริเวณด้านหลังโรงงานพบซากรถ 10 ล้อ รถแบ็กโฮ รถยนต์ รถเครื่องจักร (jcb ขุดหน้าตักหลัง) จอดเรียงรายหลาย 10 คัน ซึ่งรถทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นรถที่รอการซ่อมบำรุง
รถแต่ละคันถูกตัดเพลา ยกหม้อน้ำ ตัดถังน้ำมันจนหมดเกือบทุกคัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีร่องรอยการตัดเหล็กบริเวณด้านหน้ารถเจซีบี (รถขุดหน้าตักหลัง) ได้รับความเสียหาย และบริเวณเสาไฟข้างโรงงานซึ่งติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ถูกคนร้ายตัดสายไฟและยกหม้อแปลง ขนาด 250 กิโลโวลต์หายไป
อีกทั้งยังพบว่ากำแพงของโรงงานสูงเกือบ 5 เมตร ถูกคนร้ายทุบกำแพงเปิดช่องเพื่อเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งแผง 1 ช่อง และทุบเป็นช่องรูขนาดคนมุดเข้าไปได้ 2 ช่อง
หัวหน้าคนงาน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้โรงงานถูกคนร้ายเข้ามาขโมยของบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้หนักหนาสาหัสเพราะคนร้ายทุบกำแพงแล้วเข้ามาขนรถบดสะเทือน มูลค่า 3 ล้านบาท หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อะไหล่เครื่องจักร และอะไหล่รถบรรทุก 10 ล้อ รวมถึงท่อนเหล็กน้ำหลักหลาย 10 ตัน รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท
ทางเจ้าของโรงงานจึงให้พนักงานมาเฝ้าดูจนกระทั่งพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ย้อนกลับมาขนของอีกครั้ง จึงแจ้งตำรวจจับกุมให้มาจับกุม ส่วนรถบดและหม้อแปลงที่ถูกขนย้ายไปก่อนหน้านี้เชื่อว่าต้องใช้คนจำนวนมาก รวมถึงรถที่มาขนย้ายต้องเป็นรถเครนมาขนไป และมั่นใจว่าต้องทำเป็นขบวนการ
โดยขณะที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบปรากฏว่ามีรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน ขับเข้ามาภายในไร่มันสำปะหลัง โดยคันแรกบรรทุกถังแก๊ซ ที่ใช้ในการตัดเหล็กมาเต็มคันรถ คนขับรถได้เปิดประตูลงมาแสดงตัวอ้างว่าเป็นเจ้าของไร่มัน และต่อว่าตำรวจว่ามาทำให้ไร่มันสำปะหลังเสียหาย
ขณะที่รถอีกคันที่ตามหลังมาได้จอดรถมีชายฉกรรจ์ 4-5 คน ลงมาจากรถและมีท่าทีตกใจ เมื่อเห็นตำรวจจึงได้ยอมรับว่า ขับตามรถคันแรกมาเพราะได้รับว่าจ้างให้มาตัดเหล็กเครื่องจักรขนาดใหญ่ โดยเดินทางมาจาก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมยืนยันว่า รถคันแรกเป็นคนขับนำทางมายังสถานที่ดังกล่าว
จากนั้นตำรวจได้กดดันเค้นถามคนขับรถคันแรก เป็นชายอายุ 51 ปี ก่อนจะยอมรับว่าเป็นช่างขุดเจาะบาดาล ได้รับคำสั่งให้พาทีมผู้รับเหมาตัดเหล็กเข้ามาตัดของเก่าในพื้นที่ดังกล่าว โดยช่วงสายวันนี้ยังสามารถติดต่อคนสั่งงานได้อยู่ แต่พอมาถึงโรงงานที่นัดหมายกลับติดต่อปลายสายไม่ได้ พยายามโทรเป็น 10 สายก็ไม่ยอมรับสายอีกเลย
โดยปลายสายรู้เพียงว่าเป็นตำรวจ ยศผู้กอง หรือ ร.ต.อ. พร้อมยืนยันว่าแค่งทำตามคำสั่งเท่านั้น เมื่อได้สอบสวนอย่างละเอียดกพบความจริงน่าตกใจว่า “ผู้กอง” ที่ถูกกล่าวอ้างว่านั้นเป็นตำรวจจริงอยู่ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ไม่นานนักศาลจังหวัดพัทยา ก็ได้อนุมัติออกหมายจับ “ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง” อดีต รอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน หรือ “ผู้กองยา” ฐานความผิด “…ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นโดยประการใดๆ หรือรับของโจร…”
ซึ่งเจ้าตัวมีคำสั่งถูกย้ายให้มาปฏิบัติราชการประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จว.ชลบุรี แต่ยังไม่มีการมารายงานตัว เพราะลาราชการ พาภรรยาไปหาหมอที่จังหวัดอุดรธานี อีกทั้ง ภายหลังออกหมายจับ เจ้าตัวยังไม่มีการติดต่อเข้ามอบตัวเช่นกัน
ต่อมา ชุดสืบสวน ภ.4 และ สภ.บางละมุง ก็สามารถจับกุม ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง หรือ ผู้กองยา อายุ 41 ปี ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 515/5 ม.4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าตัวยอมรับสารภาพ แต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ
เมื่อได้ขยายผลและติดตามทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปขาย ตามโรงรับซื้อของเก่าต่างๆ จนได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายนำรถบดสั่นสะเทือน มูลค่า 3.5 ล้านบาท ถูกบรรทุกใส่รถเทรลเลอร์ แล้วนำไปขายให้โรงรับซื้อของเก่า ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แต่ตอนนี้รถบดสั่นสะเทือน คันที่ถูกก่อเหตุมา ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วน และ นำไปหลอมเป็นเหล็ก เหลือเพียงเครื่องยนต์เท่านั้น
จากนั้นชุดสืบสวนมีการขยายผลจับกุม นายมนตรี พรประเสริฐ อายุ 43 ปี ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้กองยา ให้นำรถบดสั่นสะเทือน ไปขายให้กับโรงรับซื้อของเก่า พร้อมกับยึดรถกระบะที่ใช้ในการลาก พร้อมกับเทรลเลอร์ลากจูง 1 คัน ที่ใช้ในการบรรทุกรถบดสั่นสะเทือนไปขาย
นายมนตรี ยอมรับสารภาพว่า ได้รับคำสั่งจากผู้กองยา ให้ลากรถบดเข้าไปขายที่โรงรับซื้อของเก่าดังกล่าว และได้ส่วนแบ่ง เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท โดยไม่รู้ว่ารถบดเป็นรถที่ถูกขโมยมา เพราะผู้กองอ้างว่า เป็นรถของเก่าที่เหมาซื้อมา สรุปคดีนี้จับกุมตัวการใหญ่และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ 11 คน
ล่าสุด ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง หรือผู้กองยา ให้การแบ่งรับแบ่งสู้อ้างว่า ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ นายต้น ซึ่งอ้างว่าเป็นหลานเจ้าของโรงงานที่เกิดเหตุได้ติดต่อมาให้มารับซื้อของเก่าประเภทหม้อแปลงไฟฟ้า จึงพาทีมงานมายกหม้อแปลงลงแล้วชำแหละแยกชิ้นส่วน
จากนั้นนำลวดทองแดงไปขายได้เงินมาทั้งหมด 50,000 บาท ก่อนจะนำเงินไปแบ่งให้กับทีมงาน ส่วนที่เหลือนำไปให้ภรรยา โดยเหลือเงินมาถึงตนเองเพียง 4,000-5,000 บาทเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในโรงงาน ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังยอมรับว่ามีปัญหาด้านการเงิน และยินดีขอเจรจาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
“ผมอยากขอโทษผู้บังคับบัญชา ขอโทษสังคมในสิ่งที่ทำลงไปจนทำให้องค์กรตำรวจเสียหาย ซึ่งผมก็ยอมรับผิด อีกทั้งยังถูกนายต้นที่อ้างตัวเป็นหลานเจ้าของโรงงานหลอกให้มาก่อเหตุ และไม่ได้มีเจตนาจะลงมือกระทำความผิด ยอมรับว่าเครียด ไม่คิดว่าตัวเองจะมาตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง”
จากการตรวจสอบประวัติ “ผู้กองยา” ตัวการใหญ่ พบว่าค่อนข้างมีความจะเชี่ยวชาญและมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรโรงงาน หม้อแปลงไฟฟ้า และชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องจักรต่างๆ เป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมาจะรับราชการในพื้นที่อุตสาหกรรมใน จ.ระยอง และจ.ชลบุรี ก่อนจะถูกย้ายมาดำรงตำแหน่งรอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน ก่อนจะมาวางแผนก่อเหตุลักทรัพย์โรงงานรับซื้อของเก่าและรีไซเคิลในพื้นที่ สภ.บางละมุง ดังกล่าว ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา
เป็นอีกหนึ่งคดีที่น่าหดหู่ใจเหลือเกิน นอกจากตำรวจระดับ “ผู้กอง” จะไม่ทำตัวเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้ว ยังถึงขนาดตั้งตนเป็นตัวการใหญ่ในการกระทำผิดกฎหมายเสียเองอีก ปกติตำรวจก็ดูมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาประชาชนอยู่แล้ว ยิ่งมีคดีอย่างนี้เกิดขึ้นอีกวงการสีกากียิ่งย่ำแย่ไปใหญ่ ฉะนั้นต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งทางอาญาและวินัยเพราะแบบนี้…มันเลี้ยงเอาไว้ไม่ได้
ข่าวสารตำรวจ
เตรียมพร้อม
พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ตรวจความพร้อมหน่วยในสังกัด ภ.จว.เพชรบุรี เตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและวิเคราะห์ภารกิจตามสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี พ.ต.ท.สิทธิพร ฉ่ำมธนา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองเพชรบุรี พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชัยมาลา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.เพชรบุรี ณ ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี
เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม
พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี มอบหมายให้ พ.ต.อ.ยิ่งยส เขินอำนวย รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย หน.สภ.ในสังกัดที่เกี่ยวข้องตรวจความพร้อมกำลังพล (ข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการ จำนวน 60 นาย) ยานพาหนะ เครื่องมือ อุปกรณ์ ในภารกิจบรรเทาสาธารณภัย ของหน่วยในสังกัด ภ.จว.สุพรรณบุรี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ที่บริเวณหน้าที่ทำการ สภ.เมืองสุพรรณบุรี
ห่วงประชาชนเดือดร้อน
พ.ต.ท.กวินท์ อดุลยาศักดิ์ รอง ผกก.จร.สภ.เมืองสุพรรณบุรี,พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ ศรีวิบูลย์ สว.จร.สภ.เมืองสุพรรณบุรี แจ้งประชาสัมพันธ์แนวทางการจัดการจราจรแยกเทศบาลเมืองฯเนื่องด้วยสภาพการจราจรแยกเทศบาลในช่วงเร่งด่วนช่วงเช้ามีความหนาแน่น จราจร สภ.เมืองสุพรรณบุรี จึงได้ขอทำการเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถบางส่วนให้เป็นวันเวย์ โดยเริ่มตั้งวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา คือ ถนนหมื่นหาญ ตั้งแต่แยกปราสาททอง มุ่งหน้าแยกเทศบาล ถนนพระพันวษาหน้า โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ตั้งแต่แยกเทศบาล มุ่งหน้าไปจนถึงปากทางเข้าถนนนางสร้อยทอง ในถนนนางสร้อยทองมุ่งหน้าไปจนออกถนนขุนแผน โดยจะเปิดวันเวย์ในช่วงเวลา 07.00 -08.30 น. หรือจนกว่าการจราจรจะคล่องตัว เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หมายเหตุ…บนสะพานอาชาสีหมอก สามารถขับรถสวนกันได้ตามปกติ ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ฝ่าย จราจร สภ.เมืองสุพรรณบุรี
บริการประชาชน
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จว.ขอนแก่น สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ชุมชนตำบลโนนหัน ออกให้บริการประชาชน หลังจาก ศูนย์วิทยุ สภ.ชุมแพ ได้รับแจ้งประชาชนขอความช่วยเหลือ รถยนต์น้ำมันหมดอยู่ริมถนนบริเวณป่าดงลาน ก่อนให้สายตรวจชุมชนตำบลโนนหัน ออกตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ พาไปซื้อน้ำมันมาเติม จนสามารถเดินทางต่อไปได้
ตำรวจของประชาชน
พ.ต.ท.บุญนาค เกื้อกูล สว.อก.สภ. บ้านบึง ภ.จว.ชลบุรี ร่วมดูแลต้อนรับประชาชนที่มาติดต่อราชการด้วยความเอาใจใส่และเป็นกันเอง รวมทั้ง ร.ต.ต.รัชพล นราวุธากรณ์ ปฏิบัติหน้าที่เวรประชาสัมพันธ์ พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำในเรื่องของปัญหาต่างๆ โดยมีเจ้าหน้า ที่ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งนอก จากจะคอยบันทึกถ้อยคำและสอบปากคำผู้ที่มาลงบันทึกประจำวันหรือแจ้งความในแต่ละวันแล้ว ก็ยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุเป็นอย่างดีอีกด้วย
แสดงความยินดี
พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี แสดงความยินดีกับ ว่าที่ นายกองเอกเชษฐา ขาวประเสริฐ ในโอกาสดำรงตำแหน่ง รอง ผวจ.สุพรรณบุรี
อุ่นใจตลอดการเดินทาง
ร.ต.อ.ณัฐ ปิ่นกระจัน หรือผู้กองณัฐ รอง สว.ป. หัวหน้าหน่วยบริการประชาชน ตร.ทล.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี นำทีมตำรวจทางหลวงด่านช้าง เฝ้าดูแลประชาชนบนถนนหลวงสาย 333 ตลอด 24 ชั่วโมง ผลงานที่ผ่านมามากมายเด่น เป็นประจักษ์ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดจับยาเสพติดและ สิ่งผิดกฎหมาย ประชาชนรถเสีย ยางแตก ไม่ต้องห่วงช่วยเหลือจนเดินทางถึงปลายทางอย่างปลอดภัย นอกจากนี้งานมวลชนสัมพันธ์ก็เด่นไม่แพ้กัน งานบุญ งานสังคมสังเคราะห์ งานรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในโรงเรียน ก็จะได้เห็น ผู้กองณัฐ นำทีมตำรวจทางหลวงด่านช้างร่วมกิจกรรมเสมอ เรียกว่าได้ใจประชาชนเต็มๆ
ประกาศเกียรติคุณ
ร.ต.อ.นพดล สมบัติ รอง สว.(สืบสวน) สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็นข้าราชการตำรวจที่มีผลงานดีเด่นด้านงานสืบสวน ประจำปี 2567 เนื่องในวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 17 ต.ค. “วันตำรวจ” สมควรแก่การยกย่องสรรเสริญและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจทั้งหลาย โดยมี พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย เป็นประธานในพิธีมอบ.
สืบสวนดีเด่น
พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี รับใบประกาศเกียรติคุณ เป็นข้าราชการตำรวจผู้ปฎิบัติงานในสายงานสืบสวนดีเด่น ประจำปี 2567 จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องในวันตำรวจ ที่ห้องประชุม ตำรวจภูธรภาค 7
ศูนย์รวมนายตำรวจน้ำดี
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบช.ภ.2 ได้มอบรางวัลตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นของ สภ.บางละมุง จำนวนทั้งสิ้น 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ต.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.บางละมุง ได้รับรางวัลข้าราชการตำรวจที่มีผลงานด้านป้องกันยาเสพติดดีเด่น ประจำปี 2567 ระดับสารวัตรขึ้นไป รับประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับรางวัลข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานป้องกันปราบปรามดีเด่น ประจำปี 2567 ระดับสารวัตร รับประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ ร.ต.อ.หญิง ธวัลรัตน์ เอี่ยววิบูลธนกิจ รอง สวป.สภ.บางละมุง ได้รับรางวัลข้าราชการตำรวจที่มีผลงานด้านป้องกันยาเสพติดดีเด่น ประจำปี 2567 ระดับรองสารวัตร รับประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสุดท้าย ร.ต.ต.ธงธวัช พลละคร รอง สว.(สส.)สภ.บางละมุง ได้รับรางวัลข้าราชการตำรวจที่มีผลงานด้านปราบปรามยาเสพติดดีเด่น ประจำปี 2567 ระดับรองสารวัตร รับประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
******************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป