เนื่องในโอกาส “วันชาติสหรัฐอเมริกา” 4 กรกฎาคม และปีนี้ “ครบรอบ 190 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย” ทาง “เดลินิวส์”   ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ โรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในการเป็นสื่อกลางถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ดังนี้…..

รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กมลา แฮร์ริส เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช

“…วันนี้เมื่อ 247 ปีที่แล้ว ผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกาประกาศว่ารัฐอาณานิคมทั้ง 13 แห่งที่พวกเขาเป็นผู้แทนนั้นเป็นไทแล้ว    ในคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐ ท่านเหล่านั้นกล่าวถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในเสรีภาพของมวลหมู่มนุษย์ อีกทั้งยังแถลงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวอเมริกันตลอดจนผู้คนทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะเลือกรูปแบบการปกครอง สิทธิที่จะพูดได้อย่างเสรี สิทธิที่จะกำหนดอนาคตของเราเอง รวมถึงความจริงที่ว่าเราทุกคนต่างได้รับการสร้างขึ้นให้เท่าเทียมกัน

ณ ขณะที่ชุมชนชาวอเมริกันในประเทศไทยเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพและวันถือกำเนิดของสหรัฐ ความสัมพันธ์อันยืนนานระหว่างชาติของเราทั้งสองก็เด่นชัดในปีนี้ ซึ่งเป็นวาระ   ครบรอบ190 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหรัฐ
เรา 2 ประเทศอยู่กันคนละซีกโลก จึงดูยากที่จะผูกไมตรีแน่นแฟ้นได้ แม้กระนั้นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราได้กลายมา
เป็นพันธมิตรและเพื่อนแท้ ความสัมพันธ์ของเราเปรียบดังผืนผ้าที่เริ่มถักทอจากสายใยแห่งค่านิยมที่เรามีร่วมกันและสายสัมพันธ์ระหว่างผู้คน

พลุเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐ (ภาพโดย U.S. National Park Service)

นับตั้งแต่ที่ผมมาถึงที่นี่ เมื่อเดือนตุลาคม ผมได้พบปะกับคนไทยจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ ได้ฟังเรื่องราวของพวกเขา ตลอดจนความหวังและความฝันที่พวกเขามี ผมรู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์ร่วมกันของเรา เช่น ผลงานของ หมอแดน บีช บรัดเลย์ นายแพทย์ชาวอเมริกัน ที่นำเทคนิคการผ่าตัดสมัยใหม่เข้ามายังสยาม ได้ปรากฏในละครดังที่ฉายเมื่อเร็ว ๆ นี้ เรื่อง “หมอหลวง”

วัฒนธรรมที่งดงามและหลากหลายยิ่งของไทยปรากฏชัดในบรรดาสิ่งที่ผมได้เห็นและได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งที่สวนลุมพินี ลอยกระทงที่เชียงใหม่ ชงชาชักที่ยะลา เล่นน้ำสงกรานต์และเรียนรำไทยที่กรุงเทพฯ ชิมข้าวซอยที่เรือนโบราณล้านนา หรือกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่ริมแม่น้ำน่าน ผมได้เห็นความงามของวัฒนธรรมไทย รวมถึงความอ่อนช้อย อบอุ่น มีชีวิตชีวา และสร้างสรรค์ ตลอดจนค่านิยมของคนไทยด้วย

อนุสาวรีย์วอชิงตัน

อีกปีแห่งความสำเร็จ

ประเทศไทยบรรลุผลสัมฤทธิ์มากมายในช่วงปีที่ผ่านมา หมุดหมายสำคัญหนึ่งก็คือการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม   ผมยินดีที่คนไทยจำนวนมากไปใช้สิทธิและมุ่งมั่นที่จะออกเสียง ประชาชนไทยเท่านั้นควรเป็นผู้ตัดสินใจเลือกรัฐบาลของตนชาวไทยเฉกเช่นเดียวกับชาวอเมริกัน ให้ความสำคัญกับเสรีภาพ ความยุติธรรม ประชาธิปไตย และอำนาจอธิปไตย เพราะเชื่อในหลักการเหล่านี้ ประชาชนชาวไทย และอเมริกัน จึงมีความสนใจที่คล้ายคลึง มีเหตุให้วาดหวังและยินดีเฉกเช่นเดียวกัน และเราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลชุดต่อไป

ในปีนี้ เรา 2 ประเทศทำสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อขับเคลื่อน  เป้าหมายที่มีร่วมกัน ความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม สุดยอดผู้นำเอเปคของไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแสดงให้ เห็นอย่างชัดเจนถึงบทบาทความเป็นผู้นำของไทยในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญระดับต้น ๆ ในระดับภูมิภาค ขณะเยือนไทยระหว่างการประชุมดังกล่าว ท่านรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ได้ชื่นชมไมตรีจิตของไทยและกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างเรา 2 ประเทศ

ฯพณฯ โรเบิร์ต โกเดค
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

การเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลอยด์ ออสติน และผู้แทนการค้าสหรัฐ แคทเธอรีน ไท ได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ทาง การทูต ความมั่นคง และการค้าที่เรามีมายาวนาน การลงนามในแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย  และสหรัฐอเมริกาในปี 2565 นับเป็นก้าวสำคัญที่กำหนดทิศทาง  ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของเราในศตวรรษที่ 21

นอกจากการเยือนของเหล่าผู้นำแล้ว เรายังสร้างความก้าวหน้าในหลายด้าน เราเชิญคณะผู้แทนธุรกิจการค้า ซึ่งนำโดยรัฐบาลสหรัฐ คณะใหญ่ที่สุด มาเข้าร่วมการประชุม Trade Winds ที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันสหรัฐ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย โดยตัวเลขการค้าระหว่าง 2 ประเทศเติบโตร่วมร้อยละ 50 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อาสาสมัครหน่วยสันติภาพสหรัฐ จำนวน 52 คน ยังกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยด้วย และเรามีการกระชับความสัมพันธ์ด้านการศึกษาและวิจัยระหว่างกัน ผ่านการพบปะพูดคุยของมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาของสหรัฐ และไทย จำนวน 80 แห่ง เมื่อ เร็ว ๆ นี้

อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี

 การฝึกคอบร้าโกลด์ ซึ่งเป็นการฝึกระดับพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 42 ในปีนี้ ได้เน้นย้ำความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างไทยและสหรัฐ ในด้านความมั่นคง ขณะที่การดำเนินการเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของโรค   โควิด-19 และความร่วมมืออันยาวนานที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS) ซึ่งรวมไปถึงการวิจัยที่เป็น การค้นพบครั้งสำคัญเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ มาลาเรีย และโรคติดเชื้ออื่น ๆ ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่เรามีร่วมกันในการตอบโต้ความท้าทายด้านสุขภาพโลก

ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน

ท่านได้เห็นแล้วว่า ไทยและสหรัฐ มุ่งมั่นทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งในหลากหลายด้านมาตลอด 190 ปี แต่ยังมี  อีกหลายสิ่งที่เราสามารถทำร่วมกันได้ ผมหวังว่าในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้เราจะสามารถยกระดับความสัมพันธ์ของเราไปอีกขั้น เมื่อร่วมมือกัน เราก็สามารถสร้างสายใยแห่งความสัมพันธ์ใหม่ ๆ มากมายนับล้าน หรือหลายสิบล้านเส้น ที่จะร้อยเรียงถักทอขึ้นบนผืนผ้าของเรา

ฯพณฯ โรเบิร์ต โกเดค ถ่ายภาพร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรฯ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่เรายังคิดให้ไกลกว่านั้นได้ ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่เราทำได้ ไม่ว่าจะเป็น… การพยายามเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาให้คนไทยไปเรียนที่สหรัฐ และคนอเมริกันมาเรียนที่ไทย การค้นหาหน  ทางใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนในทั้ง 2 ทิศทาง  การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เพิ่งจะต่ออายุไป เพื่อยกระดับการวิจัยร่วมทางวิทยาศาสตร์และวิชาการโดยมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน หรือการมีส่วนในโลกดิจิทัลและอุตสาห กรรมสร้างสรรค์มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่เราอาจได้ร่วมกันส่งเสริมการ ใช้พลังงานสะอาด ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร และทำงานวิจัยในอวกาศ หากจินตนาการของเราไม่มีที่สิ้นสุด ความสำเร็จที่เป็นผลจากความร่วมมือของเราก็เช่นกัน

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เยี่ยมชมศูนย์ American Coner ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

ในวาระครบรอบ  247 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของสหรัฐ และ 190 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหรัฐ ผมขอขอบคุณรัฐบาลไทยและชาวไทยสำหรับมิตรภาพระหว่างเรา ผมเชื่อมั่นในอนาคตของความสัมพันธ์นี้ เราสามารถตอบรับความท้าทายและคว้าโอกาสใหม่ ๆ โดยสานต่อค่านิยมที่เรามีร่วมกัน และเราสามารถสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับประเทศของเราและผู้คนทุกแห่งหนได้ด้วยการร่วมมือกันสืบต่อไป…”.

ทีมวาไรตี้
ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป