เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า บัตรสองใบ คนละเบอร์ คือ ร่างของ ครม. และพรรคร่วมรัฐบาล สะท้อนวิธีการคิดอะไร การพิจารณากฎหมายลูก 2 ฉบับ ของรัฐสภา ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ จะให้บัตรเลือกตั้งเขต กับบัตรบัญชีรายชื่อของพรรค เป็นเบอร์เดียวทั้งประเทศหรือไม่ เพราะอุปสรรคใหญ่ในการออกแบบ คือ มาตรา 90 ของรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีการแก้ไข ซึ่งกำหนดให้ ต้องรับสมัครเขต ก่อนรับสมัครบัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นการออกแบบรองรับระบบบัตรใบเดียว ทั้งนี้หากคิดตามแบบเคร่งครัด สมัครเขตก่อนย่อมต้องได้เบอร์อะไรไม่รู้ แตกต่างกันไปในแต่ละเขต พอมาสมัครบัญชีรายชื่อตามหลัง จะให้เป็นเบอร์เดียวกันคงยาก แต่หากรู้จักคิดพลิกแพลง โดยให้วันแรกสมัครเขต แต่ยังไม่ได้เบอร์ วันที่สองให้สมัครบัญชีรายชื่อแล้ว เอาเบอร์ที่ได้มาแจกให้ผู้สมัครเขต ก็เป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศได้
“แบบแรก ตรง ๆ ไม่คิดมาก เบอร์ต่างกัน เป็นร่างของ ครม. (กกต. เสนอ) และ ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล แบบที่สอง คิดพลิกแพลง กลายเป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ เป็นร่างของเพื่อไทยและก้าวไกล จริง ๆ แล้ว เบอร์เดียวกัน ดีต่อทุกฝ่าย ประชาชนจดจำง่าย พรรคหาเสียงง่าย กกต. จัดการง่าย แต่หากเบอร์เขต กับ บัญชีรายชื่อ เป็นคนละเบอร์ ต้องบอกว่าจะมั่วมาก ประชาชนจำยาก พรรคหาเสียงยาก กกต. จัดการยาก ทราบมาว่า เดิมร่างของ กกต. ที่เสนอให้ ครม. เป็นแบบพรรคเดียวเบอร์เดียวทั้งประเทศทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ แต่ถูกชักออกในขั้นการพิจารณาของ ครม. นายสมชายระบุ และทิ้งท้ายว่า ครม. กับ พรรคร่วมรัฐบาล คิดอะไรอยู่ หรือกลัวอะไร กลัวว่า ประชาชนจะเลือกตั้งง่ายไปหรือไง.