เมื่อวันที่ 20 ต.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายกสิกร แซ่จึง ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 423/2567 ลงวันที่ 30 ก.ค. 2567 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมแฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยจำหน่าย โดยการกระทำเพื่อการค้าฯ” จับกุมได้บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้รับข้อมูลจากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ว่าได้มีการจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีการขยายผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยาบ้าจำนวน ประมาณ 3,818,000 เม็ด และ ยาไอซ์ประมาณ 25 กิโลกรัม ในพื้นที่ บ้านหลังหนึ่งใน กทม. และจากการขยายผลผู้ร่วมขบวนการนี้ ทราบว่ามีนายกสิกร ผู้ต้องหา เป็นผู้มาส่งยาเสพติด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว และจับกุมได้ในเวลาต่อมา
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนและกลุ่มเพื่อนได้รับการว่าจ้างให้นำยาเสพติด ไปส่งในสถานที่ต่างๆ ตามที่เจ้าของยาเสพติดเป็นคนสั่งการ โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท หลังจากนั้นทราบว่าตนเองได้ถูกออกหมายจับ จึงได้หลบหนีข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ไปทำงานเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกคนไทย แต่เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในด้านดังกล่าว จึงไม่สามารถที่จะทำยอดให้กับนายทุนคอลเซ็นเตอร์ได้ จึงถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนหลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติด กำลังเป็นปัญหาที่คุกคามสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นภัยต่อสุขภาพกายและจิตต่อกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ขออย่าให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน และฝากเตือนไปถึงคนค้ายาเสพติดรายเล็ก รายใหญ่ ขอให้กลับตัวกลับใจ รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการปราบปรามอย่างจริงจังและเด็ดขาด.