สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ว่านพ.อัดฮัม บาบา รมว.สาธารณสุขของมาเลเซีย แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์เรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศ ว่าวัคซีนหลักที่ใช้งานอยู่ตอนนี้ คือวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ซึ่งรัฐบาลทำข้อตกลงสั่งซื้อ 45 ล้านโด๊ส เพียงพอสำหรับประชากร 70% และได้รับมอบอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน รัฐบาลนำเข้าวัคซีนของซิโนแวคจากจีนมาอีก 16 ล้านโด๊ส รวมถึงวัคซีนที่รับมาบรรจุเองในประเทศตามข้อตกลงด้วย เพียงพอสำหรับประชากร 8 ล้านคน ซึ่งตอนนี้ใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง และด้วยการที่แผนการนำเข้าวัคซีนของมาเลเซียกำลังเป็นไปตามแผน เมื่อใช้วัคซีนของซิโนแวคส่วนนี้หมดแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องสั่งซื้อวัคซีนตัวนี้อีก โดยนับจากนี้ ประชาชนซึ่งมารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกจะได้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค
ปัจจุบันมาเลเซียมีสถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 880,732 คน หายป่วยแล้ว 765,800 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 6,613 ราย ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศมีอัตราการติดเชื้อหัวประชากรสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  แต่ในเวลาเดียวกันสามารถเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้เร็วที่สุดเช่นกัน โดยประมาณ 26% จากประชากร 32 ล้านคนได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โด๊ส
จนถึงขณะนี้ มาเลเซียขึ้นทะเบียนฉุกเฉินให้กับวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน วัคซีนของจีน 3 รายการ คือ แคนซิโน ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม และ แอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด จากฐานการผลิต 3 แห่ง คือบริษัทมีดิมมูน ฟาร์มา ของเนเธอร์แลนด์ บริษัทเอสเค ไบโอไซเอนซ์ ของเกาหลีใต้ และบริษัทสยาม ไบโอไซเอนซ์ ของไทย.

เครดิตภาพ : AP