เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยแพร่ข้อความระบุว่า “….ขอแจ้งเตือนไปยัง ผู้คิดผลิตข้อความหรือนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในการแจ้งเตือนภัยด้านอุตุนิยมวิทยาอันเป็นเท็จ หรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการแสวงหาผลประโยชน์จากการกระทำและเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว มิฉะนั้น อาจเข้าข่ายกระทำความผิด พรบ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
เนื่องด้วยปัจจุบันนี้มีการเผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลการแจ้งเตือนภัยทางด้านอุตุนิยมวิทยา บนสังคมออนไลน์จำนวนมาก จากผู้ที่ไม่มีหน้าที่และรับผิดชอบโดยตรง ผ่านหลากหลายช่องทางโดยเฉพาะช่องทางอินเทอร์เน็ต ที่มีความสะดวกในการับและส่งข่าวสารต่อ ๆ กันได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่ต้องการสร้างข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน ปลอมแปลงหรืออาจเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ต้องการแสวงหาประโยชน์ จากความตืนตระหนกกับข่าวปลอมดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดและความเข้าใจคาดเคลื่อนไปจากข้อมูลจริง เกิดความตื่นตระหนก สับสนกับสถานการณ์และเกิดความปั่นป่วนในสังคมเป็นวงกว้าง
ดังนั้น เพื่อเป็นมาตรการแนวทางการป้องกันข่าวปลอมดังกล่าว จึงขอแจ้งเตือนสำหรับผู้คิด ผลิตข้อความหรือกระทำการใด ๆ ในการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน ปลอมแปลงหรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการแสวงหาผลประโยชน์จากการกระทำและเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ดังกล่าว จนทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกและสับสน เข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากข้อมูลจริง
จึงขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว มิฉะนั้นอาจเข้าข่ายกระทำความผิดพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1)-(4) ทั้งในเรื่องข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปลอมแปลง ทำให้ประชาชนแตกตื่น กระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความมั่นคงของรัฐ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับหรือหากข้อมูลนั้นทำให้บุคคล องค์กร หน่วยงาน เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ยังอาจได้รับโทษในความผิดหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และในช่วงที่เกิดสถานการณ์วิกฤตหรือมีภัยพิบัตร ผู้บริโภคสื่อต้องพึงระวังในการแชร์หรือส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจเข้าข่ายกระทำผิดพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14 (5) ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดอันยอมความได้…”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา