เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ในการเดินเรือข้ามฟากระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตลอดลำน้ำโขง ในพื้นที่ จ.นครพนม รวมถึงพื้นที่จังหวัดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง เนื่องจากในช่วงนี้ระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดระดับประมาณ 10.80 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่ง ประมาณ 1 เมตร คือที่ 13 เมตร ทำให้ส่งผลกระทบในพื้นที่ลำน้ำสาขาสายหลัก ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เริ่มเอ่อล้น เนื่องจากไหลระบายลงน้ำโขงช้า จึงต้องมีการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยทางน้ำ คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีกในช่วง ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นางมนพร กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้หน่วยงามกรมเจ้าท่า ตรวจสอบดูแลประเมินสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามวางมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือ เนื่องจากมีประชาชน นักท่องเที่ยว ยังใช้บริการเรือโดยสารข้ามฟากระหว่าง อ.เมืองนครพนม กับแขวงคำม่วน สปป.ลาว รวมถึงเรือบรรทุกสินค้าระหว่างไทย-ลาว พร้อมกำชับผู้ประกอบการเดินเรือ ให้ระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงน้ำไหลเชี่ยว ต้องมีอุปกรณ์ชูชีพทุกลำ นอกจากนี้ต้องจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนทุกด้านด้วย
ด้านนายเกียรติศักดิ์ พงษ์พนัศ นักเดินเรือชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคนครพนม กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้ระดับน้ำโขงยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 10.88 เมตร แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงยังอยู่ในระดับสูง และยังมีประชาชน นักท่องเที่ยวใช้บริการเรือโดยสารข้ามฟาก ระหว่างไทย–สปป.ลาว รวมถึงเรือสำราญท่องเที่ยว จึงต้องคุมเข้มกำชับผู้ประกอบการ ดูแลด้านความปลอดภัย ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ ยืนยันว่าไม่กระทบการเดินเรือ ทั้งทางเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลจุดเดินเรือทุกจุด.