จากกรณีคณะทำงานสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่รับผิดชอบคดีขอความช่วยเหลือกรณีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากปลาหมอคางดำ ได้ลงพื้นที่ตั้งโต๊ะรวบรวมเอกสารจากชาวบ้าน เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของปลาหมอคางดำอีกที่จ.สมุทรสงคราม มีผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทยอยเดินทางมายื่นให้ข้อเท็จจริงทั้งในพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและในแหล่งน้ำธรรมชาติจำนวนมาก และคาดว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีได้ในวันที่ 16 ส.ค.นี้นั้น

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายวิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า คณะทำงานช่วยทำคดีปลาหมอคางดำกำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายใน 2 แนวทาง คือ ดำเนินคดีแพ่งกับผู้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไทย เรียกค่าเสียหายจากการขาดรายได้ โดยชาวบ้านผู้เสียหายจะต้องมอบอำนาจให้ทางสภาทนายความเป็นโจทก์ผู้ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป ตามพระราชบัญญัติคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในตอนแรกสามารถรวบรวมข้อมูลและเขียนคำฟ้องเสร็จแล้ว

แต่เมื่อคณะทำงานล่าสุดได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา พบเกษตรกรในจ.สมุทรสงคราม ได้เข้ามายื่นขอความช่วยเหลือและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มอีกจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อความละเอียดรอบคอบในการทำสำนวนคำฟ้องจึงอาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน ไม่ทันวันที่ 16 ส.ค. ที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม แค่เฉพาะผู้เสียหายในจ.สมุทรสงคราม รวมกันทั้งสิ้น 900 คน และอาจจะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่ตนจะขอตัดรอบเพื่อฟ้องคดีก่อนชุดแรก ส่วนคนที่เข้ามาลงทะเบียนขอความช่วยเหลืออาจจะรอรวมเป็นสำนวนที่สองต่อไป