เมื่อวันที่ 7 ส.ค. จากกรณี ร.ต.อ.ทรงวิทย์ แสนยาวุธ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ที่หมู่บ้านห้วยทราย หมู่ 16 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.โสภน ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมือง ทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย และแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
โดยผู้เสียชีวิตคือ นางเสงี่ยม กุณณา อายุ 71 ปี ถูกทำร้ายด้วยของแข็ง ทุบตามบริเวณกะโหลกหน้าผากและท้ายทอย หลังหูซ้าย หน้าอก และลำตัวด้านหน้า มีรอยฟกช้ำ ก่อนนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งตรวจที่นิติเวช รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถามนายประสิทธิ์ นานุกูล อายุ 58 ปี น้องชายผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางญาติผิดสังเกตเพราะผู้ตายไม่เดินทางไปร่วมพิธีศพของญาติ ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 5 ส.ค. จึงได้ไปยืนเรียกที่หน้าบ้านอยู่นาน แต่พี่สาวไม่ตอบ จึงโทรฯไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยดู โดยพบว่าประตูด้านหน้าบ้านถูกล็อกจากด้านใน จึงปีนเข้าทางหน้าต่างห้องของหลานซึ่งอยู่ใกล้ประตูเข้าบ้าน พบว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว โดยที่ทีวียังคงเปิดทิ้งไว้
ในบ้านพบร่องรอยการต่อสู้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่ามีสร้อยคอทองคำของพี่สาวหายไป และมีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ส่วนเงินที่บริเวณลิ้นชักหัวเตียง ซึ่งมีเงินอยู่ข้างในนั้น 20,000 บาท คาดว่าคนร้ายเปิดกุญแจไม่ได้ จึงไม่ได้เงินไปด้วย ตอนนี้ยังต้องรอการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ และกองพิสูจน์หลักฐาน
ด้านนายลวน พิระบรรณ์ ผญบ.ห้วยทราย หมู่ 16 กล่าวว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวเพียงลำพัง ญาติพี่น้องส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ข้างในซอยก็มีเพียงบ้านของคนตายเพียงหลังเดียว ไม่มีใครได้ยินเสียงตอนเกิดเหตุ จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าคนตายถูกของแข็งทุบที่บริเวณหน้าผากและบริเวณท้ายทอย รวม 2 แผล
“ครั้งนี้ถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ครั้งแรกของหมู่บ้าน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุรุนแรงแบบนี้มาก่อน หลังชาวบ้านทราบข่าวก็ต่างรู้สึกขวัญเสียกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจึงได้ประกาศเตือนให้ลูกบ้านเพิ่มความระมัดระวัง และไม่สวมใส่ทรัพย์สินที่มีค่าออกจากบ้าน เพราะอาจล่อใจคนร้ายมาก่อเหตุแบบครั้งนี้” ผญบ.ห้วยทราย กล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบเบาะแสว่าในพื้นที่มีชายอายุประมาณ 30 ปี ที่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ได้หายออกไปจากหมู่บ้าน ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่.