เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีการควบคุมตัวผู้ต้องหาชายทั้ง 10 รายในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่คืนวานนี้ (17 ต.ค.) หลังศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัว ว่า ภายหลังมีการรับตัวกลุ่มผู้ต้องหาชายทั้งหมด 10 ราย เข้ามาคุมขังยังเรือนจำฯ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามระเบียบราชทัณฑ์ ในส่วนของกระบวนการแรกรับ อาทิ การจัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจสอบประวัติการรักษาโรคต่าง ๆ และพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนนำตัวทั้งหมดเข้าห้องกักโรคโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน
เบื้องต้นจากการตรวจร่างกายพบ 2 ราย มีโรคประจำตัว คือ นายธวินทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มีเอกสารการรักษาจากแพทย์และเอกสารเรื่องยารักษาโรคชัดเจน ส่วนนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ โค้ชแล็ป เป็นโรคไต มีเอกสารการรักษาจากแพทย์และเอกสารเรื่องยารักษาโรคเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ได้มีการขออนุญาตเรือนจำฯ นำยาเข้ามารับประทาน ซึ่งแพทย์ประจำเรือนจำฯ ได้ตรวจสอบและอนุญาต ทั้งนี้ ยังไม่ถึงขั้นมีแนวโน้มต้องส่งตัวทั้งคู่เข้ารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ก็ต้องมีการประเมินเป็นระยะ ๆ
นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่า นอกจากการมอนิเตอร์ดูเรื่องความสงบเรียบร้อยแล้ว ตนก็ได้ให้นักจิตวิทยาคอยสังเกตอาการ ภาษากายของแต่ละบุคคล เพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดคิด แต่ ณ ตอนนี้ทั้งหมดยังอยู่ร่วมกันได้ดี ส่วนกรณีของ 2 บอสดาราชาย ทราบว่า นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ เบื้องต้นทั้งคู่มีความเครียดสูง นอนหลับไม่สนิท รวมถึงบางช่วงบางตอนยังเอ่ยปากร้องขอพบเจอญาติ แต่ก็ยืนยันไปว่าต้องเป็นไปตามระเบียบ เนื่องจากต้องเข้าสู่กระบวนการแยกกักโรคโควิด-19 สำหรับผู้ต้องขังแรกรับ ทั้งนี้ ภายในห้องกักโรคโควิด-19 จะมีกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา สำหรับเมนูแรกเมื่อคืนนี้ที่กลุ่มบอสชายได้รับประทาน คือ เมนูแกงเผ็ดปลามะเขือเปราะและผัดผักคะน้าใส่ไก่ ส่วนในช่วงเช้าวันนี้จะเป็นเมนูแกงเขียวหวานไก่ใส่ฟักเขียวและข้าวสวย
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า หากครบระยะกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน จึงจะได้มีการพิจารณาจำแนกแยกลักษณะผู้ต้องขัง ว่ารายใดควรอยู่ที่แดนไหน เพื่อป้องกันเรื่องความปลอดภัย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าในแดนนั้น ๆ จะมีโจทก์เก่า หรือคู่กรณี หรือมีผู้หมั่นไส้ไม่ประสงค์ดีหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะให้ทั้งหมดได้อยู่รวมกันในแดนเดียวกันเพื่อให้สามารถช่วยเหลือดูแลกันได้และลดบรรเทาเรื่องความเครียดได้