เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ได้พา พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เดินทางมาเพื่อเเจ้งความกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และนักการเมืองรายหนึ่งในรายการโหนกระแส ซึ่งอ้างว่ามีอำนาจแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.ประทีป ขึ้นเป็นรองเลขาธิการ สคบ. และดูแลธุรกิจขายตรงที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้
กัน จอมพลัง กล่าวว่า เมื่อวาน (15 ต.ค.) ตนได้เจอ พ.ต.อ.ประทีป ที่ไปรายการโหนกระแสด้วยกัน ในเรื่องของคลิปเสียงปริศนาของบอสพอลที่คุยกับบุคคลปริศนาที่มีการพาดพิงถึงคนชื่อ ประทีป ซึ่งในตำแหน่ง ณ เวลานั้นมีแค่ พ.ต.อ.ประทีป คนนี้คนเดียวเพียงเท่านั้น ตนจึงได้มีการคุยกับพ.ต.อ.ประทีป ว่าถ้าบริสุทธิ์ใจจริงแล้วก็พร้อมขอให้ออกมาเผชิญหน้า ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบเรื่องแล้วจะช่วยตามเรื่องให้
‘ประทีป’ ยันไม่ใช่ ‘เทวดาสคบ.’ ถูกเอาชื่อไปอ้าง เตรียมแจ้งความเอาผิดหนัก!
ด้านพ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า วันนี้ตนเตรียมหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษและชัดเจนในการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนเชื่อว่าข้าราชการไทยระดับสูง ไม่ต้องไปอยู่ใต้อุ้งมือ อุ้งเท้าใคร ซึ่งการกล่าวเช่นนี้ถือเป็นการดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง จึงมาเรียกร้องความเป็นธรรม
“ตนได้ฟังคลิปเสียงแล้วซึ่งเสียงที่ได้ฟังคุ้นมาก ส่วนเรื่องเทวดา ทางตำรวจต้องพิสูจน์เอง ทางด้านของกฎหมายและเชื่อในศักยภาพของตำรวจไทย ซึ่งบอสพอลออกมายอมรับแล้วว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็นของบอสพอลจริงๆ แล้วบุคคลปริศนาถ้าอยู่ในคลิปเสียงกับบอสพอล ตนเคยร่วมงานด้วย ซึ่งบุคคลนิรนามในคลิปเคยทำเกี่ยวกับเรื่องปราบปรามเรื่องคดีแชร์ลูกโซ่ ถ้าเป็นคนเดียวกันที่ตนนึกถึง ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย แต่ตอนนี้ตนไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกับในคลิปเสียงหรือไม่” อดีตเลขาฯ สคบ. กล่าว
อดีตเลขาฯ สคบ. กล่าวต่อว่า ซึ่งบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในข้าราชการ ตอนนี้คลิปเสียงแพร่ไปทั่ว ซึ่งเจตนาที่ตนจะเอาคนที่กล่าวอ้างตนทำให้เสียหาย มาให้ตำรวจสอบปากคำ ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรมโดยข้อหาที่ตนจะแจ้งก็คือ ข้อหาหมิ่นประมาท และ ความผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์