ในยุคปัจจุบันเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมและเศรษฐกิจของเรา ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ยังสามารถสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy) อีกด้วย

ตัวอย่างแนวคิดของธุรกิจที่สนับสนุน Green Economy
1.Jeff Bezos – Amazon:
เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon ได้ริเริ่มโครงการ Bezos Earth Fund ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 2020 มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์ นักเคลื่อนไหว และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยให้ทุนสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การอนุรักษ์ธรรมชาติ และการพัฒนาพลังงานสะอาด

Source: CarbonCredits.com
นอกจากนี้ Amazon ยังได้ประกาศ Climate Pledge ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่จะทำให้ Amazon บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2040 โดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า และการลงทุนในเทคโนโลยีลดคาร์บอน แนวคิดและการลงมือทำเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เจฟฟ์ เบโซส์ มองเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Green Economy และพร้อมที่จะลงทุนและสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

2.Ingvar Kamprad – IKEA:
Ingvar Kamprad คือผู้ก่อตั้ง IKEA บริษัทเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับโลกที่มีชื่อเสียง แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับ Green Economy ที่ชัดเจนเหมือนกับนักธุรกิจบางคนในปัจจุบัน แต่ IKEA ภายใต้การนำของเขาก็มีแนวปฏิบัติและนโยบายที่สอดคล้องกับหลักการของ Green Economy อยู่บ้าง ดังนี้

-การออกแบบที่ยั่งยืน: IKEA ให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน และลดของเสียในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ยังออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้
-การใช้พลังงานหมุนเวียน: IKEA มีเป้าหมายที่จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในการดำเนินงานทั้งหมด และได้ลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมอย่างต่อเนื่อง

-การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: IKEA พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการจำหน่าย โดยมีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-การส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม: IKEA พยายามให้ความรู้และส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแก่พนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัท IKEA ได้ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและตั้งเป้าหมายที่จะใช้พลังงานที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดภายในปี 2030 นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวโครงการ Circular IKEA ที่เน้นการออกแบบและผลิตสินค้าที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

3.BlackRock:
BlackRock คือบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการลงทุนทั่วโลก BlackRock ให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวคิด ESG โดยมองว่าธุรกิจเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตสูงและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

BlackRock ได้ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง เช่น Apple, Microsoft, Amazon และ Alphabet นอกจากนี้ BlackRock ยังลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น NextEra Energy และ SolarEdge Technologies

Green Economy กับกลุ่มธุรกิจในไทย
สำหรับในประเทศไทย กลุ่มธุรกิจพลังงานนับว่าเป็นเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่เราเห็นได้ชัดว่าริเริ่มโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ในไทยได้เริ่มนำแนวคิด Green Economy มาปรับใช้ในนโยบายการเงิน เช่น การสนับสนุนโครงการพลังงานหมุนเวียนและการให้สินเชื่อสำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยอย่างกลุ่ม Bitkub ได้ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการทำธุรกรรม ลดการใช้ทรัพยากร เพื่อการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในอนาคต
บทสรุป

การเติบโตทางเศรษฐกิจในอดีตมักมาพร้อมกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ความยั่งยืนได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา เศรษฐกิจสีเขียว หรือ Green Economy คือแนวคิดที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีดิจิทัลจึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ช่วยให้เราสามารถติดตามและจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดของเสีย นอกจากนี้ เทคโนโลยี Blockchain ยังสามารถนำมาใช้ในการสร้างความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับของห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้าที่พวกเขาซื้อนั้นมาจากแหล่งที่ยั่งยืน

การนำเศรษฐกิจดิจิทัลมาผสมผสานกับ Green Economy ไม่เพียงแต่จะสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดลงของทรัพยากรธรรมชาติ แนวคิดและการกระทำของผู้นำธุรกิจระดับโลกและในประเทศไทยที่มุ่งเน้น Green Economy เป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับตัวและนวัตกรรมที่สามารถนำพาโลกไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถกำหนดทิศทางของการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เราสามารถเลือกที่จะสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อทุกคน

อ้างอิง:
Bitkub Blog 1, Bitkub Blog 2, Medium, Ikea, theguardian, Bank of Thailand

คำเตือน:
-สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
-ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต