ศึกเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ “2024 เดวิสคัพ” โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 3 ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อคืนวันที่ 11 มิ.ย. ตามเวลาไทย รอบแรก แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม กลุ่ม B ทีมนักหวดหนุ่มไทย ที่นัดแรกเอาชนะ แปซิฟิก โอเชียเนีย 3-0 ลงเล่นนัดที่ 2 พบกับ ทีมชาติซีเรีย ที่เพิ่งลงแข่งนัดแรก

คู่แรก เดี่ยวมือ 2 “บูม” กษิดิศ สำเร็จ เอาชนะ เทย์ม อัล อัซเมห์ 2-0 เซต 7-6 ไทเบรก 7-5, 6-3 จากนั้นคู่ที่ 2 เดี่ยวมือ 1 “แม็กซ์” แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย แพ้ ฮาเซม นอว์ วัย 24 ปี 1-2 เซต 6-3, 6-7 ไทเบรก 5-7, 1-6 ต้องชี้ชะตาในคู่สุดท้าย ในประเภทคู่ ปรากฏว่า “ณัฐ” ปรัชญา อิสโร กับ กษิดิศ สำเร็จ เฉือนชนะ เทย์ม อัล อัซเมห์ กับ ฮาเซม นอว์ 2-1 เซต 6-2, 3-6, 6-0 สรุป ไทย ชนะ ซีเรีย 2-1 คู่ เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด ผลอีกคู่ในกลุ่ม B จอร์แดน เจ้าภาพ ชนะ แปซิฟิก โอเชียเนีย 3-0 คู่, กลุ่ม A ซาอุดีอาระเบีย ชนะ มาเลเซีย 2-1 คู่, สิงคโปร์ ชนะ อินโดนีเซีย 2-1 คู่

หลังจบเกม “โค้ชเบิ้ม” ดร.ธนากร ศรีชาพันธุ์ กัปตันทีมเดวิสคัพไทย กล่าวว่า เจอกับซีเรีย ถือเป็นแมตช์ที่หนัก การเก็บแต้มแรกจากเดี่ยวมือ 2 ได้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี กษิดิศรักษาฟอร์มการเล่นของตัวเองไว้ได้ เพราะคู่แข่งขัน ซึ่งดูเหมือนอันดับโลกไม่สูง แต่ฝีมือการเล่นจากที่ติดตามทราบว่าไปอยู่ที่สหรัฐ เล่นได้ดี มีความเป็นนักสู้สูงมาก ทำให้กษิดิศต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ส่วนแต้มที่ 2 ก็เกือบทำได้ แต่คู่แข่งขันมีประสบการณ์ มีเกมการเล่นที่หลากหลาย แม็กซิมัส ได้พยายามอย่างเต็มที่ก่อนจะแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

กัปตันทีมเดวิสคัพไทย กล่าวต่อว่า การตัดสินที่ประเภทคู่ ซีเรียก็ต้องเอาผู้เล่นที่ดีที่สุดลงแข่งขัน เช่นเดียวกับไทย ซึ่งได้วางแผนหลังจากพิจารณาร่วมกัน เนื่องจาก แม็กซิมัส เล่นถึง 3 เซต จึงตัดสินใจให้ กษิดิศ ลงคู่กับ ปรัชญา ซึ่งเล่นได้เข้าขา เปิดเซตแรกได้ดี เซตที่ 2 อย่างที่บอกไม่ง่าย คู่แข่งขันกลับมาได้ แต่พอเซตที่ 3 ความมุ่งมั่น บวกกับกำลังใจที่ดี รวมถึงเสียงเชียร์จากทีมไทย ทำให้ กษิดิศ กับ ปรัชญา สามารถเอาชนะได้ ก็สร้างความมั่นใจให้ทีมไทยเพิ่มขึ้นในการเล่นอีก 2 นัด ที่เหลือ

“แมตช์ต่อไป ไทยจะพบกับ อิหร่าน เราจะไม่ประมาท หลังจากได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขาแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าเราน่าจะไม่เป็นรอง และหวังว่าจะเก็บ 2 แต้มแรกได้ แต่หากผิดพลาดขึ้นมา ก็ยังมีประเภทคู่ ซึ่งคิดว่าการผ่านซีเรียมาได้ ทำให้มั่นใจว่าเราจะสู้อิหร่านได้แน่นอน” ดร.ธนากร กล่าว

ทางด้าน “ผู้พันหลอด” พันเอก วัฒนา จันทร์ไพจิตต์ ผู้จัดการทีมไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมนักกีฬาทุกคน ทั้งที่ลงแข่งขันและที่ไม่ได้ลงแข่งขัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประจำทีมที่ช่วยกันเชียร์ ทำให้เห็นถึงความสามัคคีภายในทีมที่ช่วยกันทำหน้าที่เพื่อประเทศไทย ช่วยกันเชียร์จนพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเฉือนชนะทีมซีเรียได้ สำหรับการพบกับอิหร่านนั้น ยังเชื่อมั่นในฝีมือของนักเทนนิสไทยทุกคน จะพยายามสู้และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ขณะที่ กษิดิศ กล่าวว่า สำหรับแมตช์นี้ ในประเภทเดี่ยว เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะเจอคู่แข่งขันที่มีประสบการณ์มากกว่าคู่แข่งขันที่เจอกันในวันแรก ทำให้จังหวะในช่วงแรกยังไม่ค่อยดี จึงได้หาจังหวะและรักษาเกมเสิร์ฟไปเรื่อยๆ จนถึงไทเบรกก็พยายามสู้ทุกแต้ม กระทั่งได้เซตแรกมา ส่วนเซตที่ 2 เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้จังหวะการตีดีกว่าเซตแรก ทว่าคู่แข่งขันเริ่มฮึดสู้ จึงจบเกมได้ยาก แต่ได้พยายามรักษาเกมเสิร์ฟของตัวเอง เล่นไปทีละแต้มและสามารถคว้าชัยได้ในที่สุด

“สำหรับประเภทคู่ ผมเคยจับคู่กับพี่ณัฐ ปรัชญา แข่งขันมาแล้ว ในศึกเดวิสคัพที่โบลิเวีย ส่วนครั้งนี้ก็พยายามเล่นให้เข้าขากันมากที่สุด และพยายามใช้ลูกเสิร์ฟที่ถนัดเป็นอาวุธ จนกระทั่งเอาชนะได้ในที่สุด ส่วนแมตช์ต่อไปกับ อิหร่าน ไม่ว่าจะได้ลงแข่งขันในประเภทเดี่ยวหรือคู่ ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเช่นเดียวกับที่ผ่านมา” กษิดิศ กล่าว