นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา กรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางทางน้ำช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปี 67 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 67 ระยะเวลารวม 7 วัน ซึ่งสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางทางน้ำ เข้า-ออก ท่าเรือหลักที่ใช้บริการหนาแน่นจำนวน 2 แห่ง ในเมืองพัทยา ได้แก่ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย และท่าเรือหน้าบ้านเกาะล้าน ประมาณ 20,000 คนต่อวัน รวม 7 วัน กว่า 140,000-150,000 คน
เนื่องจากสงกรานต์ปีนี้ ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนเดินทางใช้ชีวิตปกติ และประเทศไทยฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ทำให้ชาวจีนมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยามากขึ้น โดยส่วนมากจะนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะล้าน เพราะหาดทรายสวยน้ำใส สามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการเดินทางเข้า-ออกท่าเรือที่เมืองพัทยากว่า 15,000 คนต่อวัน สัดส่วนเป็นชาวต่างชาติถึง 70% เช่น ชาวจีน รัสเซีย และอินเดีย และอีก 30% เป็นชาวไทย โดยช่วงวันธรรมดา จะนิยมเดินทางไปเที่ยวที่เกาะล้านแบบเช้าเย็นกลับ ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ ศุกร์-อาทิตย์ จะเดินทางไปเที่ยวแบบค้างคืน ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเกาะล้าน เมืองพัทยา เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายเอกราช กล่าวต่อว่า ส่วนจำนวนเรือโดยสารประจำทางที่ให้บริการมีอยู่ประมาณ 60 ลำ จะเป็นเรือโดยสาร 2 ชั้น บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 150 คนต่อลำ เป็นเรือจากพัทยาไปเกาะล้าน โดย 1 ชั่วโมง เรือจะออกประมาณ 3-4 ลำ หรือแล้วแต่จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ ถ้าคนเต็มเรือจะออกทันที ขณะที่เรือสปีดโบ๊ตที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องจากกรมเจ้าท่า (จท.) มีให้บริการ 700 ลำ ส่วนใหญ่จะเป็นเดินทางแบบส่วนตัว โดยจำนวนเรือโดยสารที่ให้บริการ เพียงพอต่อผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 67 เจ้าท่าพัทยาจะจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ทางน้ำประจำท่าเทียบเรือ รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เป็นต้น เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว กำชับให้ผู้ประกอบการเรือโดยสาร ตรวจสอบสภาพเรือให้พร้อมใช้งาน อุปกรณ์ประจำเรือ แพชูชีพ พวงชูชีพ เสื้อชูชีพ เป็นไปตามเงื่อนไขการเดินเรือที่กรมเจ้าท่ากำหนด ผู้ควบคุมเรือ และพนักงานประจำเรือ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยสุ่มตรวจหาสารเสพติดเป็นประจำ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว สวมใส่เสื้อชูชีพขณะโดยสารเรือ เพื่อความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์
