สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโดเวอร์ รัฐเดลาแวร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐมนตรีและกองทัพสหรัฐ นำโดย พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหม เดินทางมายังฐานทัพอากาศโดเวอร์ ในรัฐเดลาแวร์ เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อรับศพทหารอเมริกัน 11 จาก 13 นาย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โจมตีท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทหารทุกนายที่เสียชีวิตมีอายุสูงสุดเพียง 31 ปี และทหาร 5 นายอายุประมาณ 20 ปีตอนต้น หมายความว่า เกิดในช่วงที่กองทัพสหรัฐเพิ่งยกทัพเข้าสู่อัฟกานิสถาน หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ขณะที่ผู้นำสหรัฐและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งพบกับครอบครัวของทหารผู้เสียชีวิตทุกนายเป็นการส่วนตัว อนึ่ง ครอบครัวของทหารอีกสองนายขอรับศพผู้วายชนม์เป็นการภายใน ซึ่งแหล่งข่าวยืนยันว่า กองทัพได้ทำพิธีส่งมอบอย่างสมเกียรติเช่นกัน
เจ้าหน้าที่กองกำลังนาวิกโยธินทยอยลำเลียงโลงบรรจุศพของทหาร ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ที่ท่าอากาศยานนานาชาติคาบูล ในอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ในพิธีรับศพที่ฐานทัพสหรัฐ ในรัฐเดลาแวร์
การเสียชีวิตของทหารทั้ง 13 นาย ซึ่งเป็นการสูญเสียกำลังพลของสหรัฐในอัฟกานิสถานมากที่สุดคราวเดียวในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เหตุทหารอเมริกัน 30 นาย เสียชีวิตหลังเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกในอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2544 ยิ่งทำให้ไบเดนได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการบริหารจัดการแผนการถอนทหาร และการอพยพประชาชนออกจากสนามบินคาบูล ซึ่งผู้นำสหรัฐยืนกรานว่า จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้.

เครดิตภาพ : AP