ชัยชนะ 2-0 เหนือ ไบรท์ตัน ที่เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ถือเป็น 3 คะแนนของ “หงส์แดง” ที่เป็นไปตามคาด….

แต่ในบางมุม แฟนหงส์บางคนอาจสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ “ไม่ปกติ”

ก่อนเกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ เผยในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ว่ามีลูกทีมของเขาบางคนที่อาจลงสนามไม่ได้ อันเนื่องมาจากการติดโควิด ซึ่งหลายฝ่ายก็คาดกันว่าอาจเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เพราะเจ้าตัวไม่ปรากฏกายในสนามซ้อมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ขณะที่ โฌแอล มาทิป ก็มีข่าวว่าไม่ค่อยสมบูรณ์ต้องเช็กความฟิต แต่พอถึงเวลา ทั้งคู่ลงเป็นตัวจริงคู่กัน ก็เป็นอันว่าไร้กังวลกับเรื่องสภาพทีม เพราะตัวหลักคนอื่น ๆ ที่เหลือพร้อมลุย แม้กระทั่ง โรแบร์โต ฟีร์มิโน ก็ฟิตกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง

แม้ฟอร์มหลังของ ลิเวอร์พูล 2 เกมที่ผ่านมาจะแลดูแผ่ว ๆ ท้งเกมเฉือน เวสต์แฮม หืดจับ และเกมแพ้ อินเตอร์ คาบ้านเมื่อกลางสัปดาห์ แถม ไบรท์ตัน ยังมักจะเป็นทีมที่ทำแสบกับลูกทีมของบ เจอร์เกน คลอปป์ เสมอในช่วงหลัง

แต่ถามเกจิสำนักไหน ส่วนใหญ่ก็ฟันธงว่า “หงส์แดง” จะเข้าป้ายกันทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อดูจากฟอร์มหลังของ “นกนางนวล” เจ้าถิ่นที่กำลังเน่าแพ้รวดมา 4 เกมแล้ว

แม้ออกสตาร์ตช่วงแรกจะยังดูฝืด ๆ แต่พอประตูแรกมา ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็น

ประตูนี้เริ่มต้นจากความยอดเยี่ยมของ มาทิป ที่วางบอลข้ามไลน์กองหลังแบบน้ำหนักชั่งเมื่อเช้าให้ หลุยส์ ดิอาซ สอดเข้าช่องว่าง และพุ่งเข้าถึงบอลก่อน โรเบิร์ต ซานเชซ และส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย

ส่วนการกางขาออกมาดัก ดิอาซ ของนายทวารเจ้าถิ่นในจังหวะนี้นั้น ดูยังไงก็น่าจะเป็นใบแดง เพราะนี่คือการออกมาทำฟาวล์ในจังหวะที่คู่แข่งมีโอกาสทำประตูอย่างชัดเจน แต่ผู้ตัดสินวีเออาร์ กลับมองว่าไม่เป็นใบแดง แถมไม่ได้แนะนำให้ผู้ตัดสินไปดูมอนิเตอร์ด้วย ซานเชซ ก็เลยยังคงได้อยู่ในสนามต่อไป

แต่เมื่อจังหวะนี้เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของ ลิเวอร์พูล จึงถือว่าพอรับได้ ให้อภัย 50 เปอร์เซ็นต์…!!!

รูปเกมหลังจากนั้น ถือว่า “หงส์แดง” ไม่ได้เจองานหนักอะไร เล่นไปเรื่อย ๆ ตามจังหวะ มีโอกาสยิงประตูตามสมควร จนกระทั่งมาได้ลูกที่ 2 ย้ำชัยชนะจากจุดโทษ จากการที่ นาบี เกอิตา ยิงไปติดมือ อีฟส์ บิสซูมา ที่ยกขึ้นมาอย่างชัดเจน และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยิงจุดโทษไม่เหลือซาก

นี่คือประตูแรกของ “บังโม” หลัง 4 นัดที่ผ่านมาหนักไปทางยิงชนเสาชนคาน นี่คือประตูที่ 158 ของ ซาลาห์ จาก 173 เกมในลีกกับ “หงส์แดง” และที่สำคัญ นี่คือประตูที่ 2,000 ของ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก

นี่คือชัยชนะที่ “นิ่มเกือก” พอสมควรของ ลิเวอร์พูล และแน่นอนนี่คือ 3 แต้มที่ช่วยให้ทีม “เกาะติด” แมนเชสเตอร์ ซิตี ด้วยช่องว่าง 3 แต้มในขณะที่เตะ 28 นัดเท่ากัน ก่อนที่ “เรือใบสีฟ้า” จะไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในวันจันทร์

แต่ท่ามกลางชัยชนะ จุดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจสังเกตเห็น (หรือผมเห็นคนเดียวก็ไม่รู้นะ) คือเกมนี้ แนวรุกของ ลิเวอร์พูล ดูไม่ค่อยประสานงานกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะ ซาลาห์ กับ มาเน ที่ดูไม่ค่อยส่งบอลให้กัน

อย่างเช่นในช่วงท้ายครึ่งแรกที่ ซาลาห์ ควบบอลเข้าเขตโทษแล้วฝืนยิงมุมแคบ เล่นเอา เจอร์เกน คลอปป์ โวยลั่นว่าทำไมไม่ส่ง

หากมีการประสานงานกัน ส่งบอลให้กันในจังหวะที่เพื่อนอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า เกมนี้บางทีทีมอาจจะได้มากกว่า 2 ประตู แต่ในเมื่อทีมชนะ มันอาจดูเหมือนไม่เป็นปัญหา แต่ในเกมที่สูสีกว่านี้ โอกาสทำประตูแต่ละครั้งอาจแปรผันเป็นแต้ม ซึ่งสำคัญสุด ๆ กับการลุ้นแชมป์ในโค้งสุดท้าย

ณ ตอนนี้อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ถ้ายังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาที่ไม่ใหญ่ อาจจะใหญ่ถึงขั้นทำให้ทีมพลาดแชมป์ในท้ายที่สุดก็เป็นได้…