แม้ในความจริงแล้วหวย 3 ตัว อาจจะไม่สามารถแข่งขันกับหวยใต้ดินได้อย่างชัดเจน เพราะมีเงื่อนไขต่างกัน ทั้งเรื่องของเงินรางวัล ทั้งเรื่องของสถานที่ขาย ที่อาจไม่ง่าย ไม่สะดวกเหมือนกับหวยใต้ดินก็ตาม
แต่ก็เป็นทางเลือกเพื่อให้เซียนหวยได้หาซื้อโอกาส “เสี่ยงโชค” ในราคา 20 บาท แม้เงินรางวัลที่ได้อาจไม่เท่ากับ สลากเอ็น 6 หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบที่ขายเป็นใบ ๆ ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมที่คุ้นชินกันมานาน
นอกจากนี้ยังเป็นการเปลี่ยนผ่านการซื้อขายสลากหรือหวย ด้วยระบบดิจิทัลเกือบสมบูรณ์ เพราะต้องซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง แม้จะยังไม่สามารถซื้อได้ด้วยตัวเองไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เหมือนกับสลากเอ็น 6
ไม่เพียงเท่านี้!! สำนักงานสลากฯ เอง ก็ต้องการสนองตอบนโยบายของรัฐบาล ที่จะลดปัญหาหวยใต้ดิน และดึงเงินบางส่วนจากหวยใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่บนดิน ให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง
เพราะ…มีการประเมินกันว่า ในแต่ละปีมีเงินสะพัดจากเล่นหวยใต้ดินถึง 100,000-300,000 ล้านบาท หากแชร์มาได้สัก 10% นั่น!!ก็หมายความว่า…เงินประมาณ 10,000-30,000 ล้านบาท ก็จะกลับเข้ามาสู่ระบบ
อย่างไรก็ตามหวย 3 ตัว ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเงินรางวัลที่เป็นแบบต้องลุ้นกันตัวโก่ง ว่ารางวัลที่ออกมานั้นจะมีคนซื้อหามากน้อยแค่ไหน?
หากเซียนหวย หรือประชาชนคนไทย ซื้อหาเลขเดียวกัน เลขเหมือนกันมาก โอกาสได้รับเงินรางวัลอาจไม่จูงใจเหมือนหวยใต้ดิน หากบางเจ้าที่ใจถึงอาจไม่อั้นเลข แล้วจัดเต็มให้เงินรางวัลแบบที่บาทละ 65-70 บาท
ตามหลักการของหวยเอ็น 3 กำหนดจ่ายรางวัลตามจำนวนคนที่ถูกรางวัล หากคนถูกน้อย ก็มีโอกาสได้เงินรางวัลมาก โดยสัดส่วนของเงินรางวัล ก็เหมือนกับสลากแบบใบ หรือสลากเอ็น 6 นั่นแหล่ะ
60% ของยอดขายหวยเอ็น 3 ในแต่ละงวด จะกูกกันออกมาเพื่อใช้สำหรับจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ถูกหวย!!
อย่างในงวดแรก…ที่เปิดขายกันมาแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา หากเป็นที่ชื่นชอบของเซียนหวย จนขายได้หมดครบ 5 ล้านใบ ใบละ 20 บาท ก็เท่ากับว่ามียอดขาย 100 ล้านบาท
ค่าเงินรางวัล 60% ก็จะเท่ากับ 60 ล้านบาท ในจำนวนนี้ได้กันเงินไว้ 30% หรือ 18 ล้านบาท ไว้จ่ายเงินรางวัลให้กับคนที่ถูกรางวัลเลข 3 ตัวตรง ถูกกี่คนก็นำไปหารกับเงิน 18 ล้านบาท หากมีเศษเหลือก็จะนำเงินไปรวมกับรางวัลแจ็กพอต
ส่วนเลขท้าย 3 ตัวโต๊ดหรือรางวัล 3 ตัวสลับ ก็ได้กันเงินไว้ 30% หรือ 18 ล้านบาท เช่นกัน เพื่อไว้เป็นเงินรางวัลให้กับคนที่ถูกเลข 3 ตัวโต๊ด หลักการจ่ายเงินรางวัล เช่นเดียวกับ 3 ตัวตรง โดยนำไปหารกับคนที่ถูกรางวัล เศษที่เหลือนำเงินไปรวมกับรางวัลแจ๊กพอตเหมือนกัน
ส่วนเลข 2 ตัวตรง เงินรางวัลจะอยู่ที่ 39% หรือคิดเป็น 23.4 ล้านบาท ก็นำไปหารกับตนที่ถูกรางวัล เศษที่เหลือนำไปรวมกับรางวัลแจ๊กพอต
ขณะที่รางวัลแจ๊กพอต ได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัล 1% ของเงินรางวัล รวมกับยอดเงินเศษของรางวัลอื่นที่เหลือ ซึ่งในงวดแรก เท่ากับมีรางวัลรวมกว่า 6 แสนบาทเศษ และถ้างวดแรกไม่มีใครถูกรางวัล จะนำไปสมทบกับงวดถัดไป อีก 1 งวด เท่านั้น
รางวัลแจ๊กพอต จะสุ่มเลือกจากผู้ถูกรางวัล 3 ตัวตรงเพียงคนเดียว หลังจากการออกรางวัลสลากินแบ่งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยดูจากเลขซีเรียลนัมเบอร์ 12 หลักที่กำกับอยู่ในใบสลาก
เรียกได้ว่า “ผู้โชคดี” ถูก 3 ตัวตรงแล้วยังได้มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล “แจ๊กพอต” อีก 1 รางวัล เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้เซียนหวยหันมาซื้อหวยเอ็น 3
แต่เงินรางวัลของหวยเอ็น 3 นี้ ต้องเสียค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของเงินรางวัล หรือถูกหักทุก 1 บาทต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท
วิธีรับเงินก็ง่าย ๆ เพราะจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น
แม้ความพยายามของสำนักงานสลากฯ ครั้งนี้ อาจทำให้บรรดานักวิชาการขัดใจอยู่บ้าง เพราะต่างมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุดวิธีนี้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดเท่านั้น
อย่างหนึ่งที่ต้องไม่ลืม!! คนไทยอยู่ติดกับการ “เสี่ยงโชค” อยู่ติดกับเรื่องของ “ความเชื่อ” มานานแสนนาน หากจะให้เลิกลากันไปทันทีคงเป็นไปไม่ได้ !!
แต่ที่แน่ ๆ ทุกวันนี้สารพัดหวยใต้ดินก็มีมากมาย ตามเว็บขายหวย 1 บาทก็ซื้อได้แถมได้เงิน 900-1,000 บาท อีกต่างหาก!!
ทั้งหลายทั้งปวง… ในเวลานี้ยังบอกไม่ได้ว่า หวย 3 ตัวของสำนักงานสลากฯ จะตรึงตาตรึงใจ “เซียนหวย” ได้มากน้อยแค่ไหน?
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”
อ่านบทความทั้งหมดคลิกที่นี่