กำลังจะผ่านพ้นปี 2566 อีกปีที่มีข่าวเด่นๆที่ประชาชนให้ความสนใจมากมาย หลายๆข่าวเรียกได้ว่ามรสุมชีวิต บางข่าวถือว่าเป็นมหากาพย์เลยทีเดียว วันนี้เดลินิวส์ได้รวบรวม 10 เหตุการณ์ที่เป็นข่าวดังในรอบปีที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง

เริ่มที่ข่าวแรก กำนันนก เหิมเกริมสุด ๆ อดีตนักการเมืองขาใหญ่คนดัง หรือ นายประวีณ หรือกำนันนก จันทร์คล้าย อายุ 35 ปี อดีตกำนันตำบลตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม สั่งลูกน้องคนสนิท “ไอ้หน่อง ท่าผา” หรือนายธนัญชัย หมั่นมาก จ่อยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ หรือสารวัตรศิว อดีต สว.กก.2 บก.ทล. เสียชีวิตภายในงานเลี้ยงคืนวันที่ 6 ก.ย. 66 ต่อหน้าต่อตาตำรวจที่นั่งอยู่ในโต๊ะกันเป็นจำนวนมาก โดยสาเหตุมาจากผู้ตาย เป็นนายตำรวจตงฉิน ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้กระทำผิดกฎหมาย หลังจากอดีตกำนันนกขอร้องไม่ให้ผู้ตาย จับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ที่ตัวเองเป็นหน้าเสื่อคอยเคลียร์ให้รถบรรทุกวิ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและใกล้เคียง อีกทั้งขอย้ายหลานที่เป็นตำรวจทางหลวงไม่ได้ แถมผู้ตายยังพูด “กำนันสู้ผมไม่ได้” เลยกลายเป็นเส้นฟางสุดท้าย ที่ทำให้อดีตกำนันนกโดนหยามศักดิ์ศรี เพราะถือว่าตัวเองเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เลยเดินไปกระซิบสั่งให้ หน่อง ท่าผา จัดการ ต่อมาตำรวจกองปราบฯ รับเข้ามาทำคดีด้วยตัวเอง จนมีการดำเนินคดีกับนายตำรวจในงานเลี้ยงรวม 21 นาย ซึ่งมีส่วนทั้งช่วยผู้ต้องหาหลบหนี-ทำลายหลักฐาน และละเว้นปฏิบัติหน้าที่ (ม.157) รวมทั้งลูกน้องของอดีตกำนันนกอีก 10 คน อีกทั้งช่วงนั้นมีการเข้มงวดกับส่วยสติกเกอร์เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเหมือนเดิมไฟไหม้ฟาง ที่พอเรื่องเงียบส่วยสติกเกอร์กลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคดีนี้จะจบลงอย่างไร มีตำรวจต้องรับโทษหรือไม่ เป็นสิ่งที่สังคมจับตา เพราะคดียังอยู่ในชั้นศาล.

ต่อมา แอม ไซยาไนด์ นับเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญไปทั่วโลก แม้แต่สื่อนอกยังเกาะติดกรณีฆาตกรต่อเนื่อง นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ อายุ 35 ปี วางยาพิษฆ่าคนใกล้ชิดและคนสนิทถึง 15 คน เสียชีวิต 14 ศพ รอดตายหวุดหวิด 1 ราย โดยก่อเหตุตั้งแต่ช่วงปี 58-66 เพื่อหวังชิงทรัพย์-ล้างหนี้-โกงเงินแชร์ โดยเหยื่อรายสุดท้ายคือ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 32 ปี เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2566 โดยตำรวจสรุปสำนวนทั้งหมด 15 คดี แจ้ง 75 ข้อหา นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหา พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 39 ปี อดีตสามีและอดีต รอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และ น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช เอกสุวรรณวัฒน์ อายุ 35 ปี ฐานความผิดช่วยเหลือมิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน

นอกจากนี้คดียังลุกลามจนตำรวจต้องสั่งตรวจสอบแหล่งจำหน่ายไซยาไนด์ ที่ผู้ต้องหาสั่งซื้อทางออนไลน์ จนพันไปถึงดาราสาวคนดัง ที่สั่งซื้อไซยาไนด์ลอตเดียวกับผู้ต้องหา ตำรวจเลยเชิญตัวมาสอบปากคำ โดยเจ้าตัวยอมรับซื้อมาจริง แต่นำมาป้องกันสัตว์มีพิษ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ส่วแอม ไซยาไนด์ ต่อสู้คดีว่าตัวเองป่วยทางจิต แต่ตำรวจยืนยันไม่เกี่ยวข้องหรือนำมาหักล้างทางคดีได้ พร้อมนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ต่อมาวันที่ 20 พ.ย.66 ศาลอาญารัชดานัดตรวจหลักฐาน พร้อมเบิกตัวสาวฆาตกรต่อเนื่องมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งยังต้องจับตาดูกันต่อไป สรุปแล้วแอม ไซยาไนด์ จะได้รับโทษกี่ปี และใครจะได้รับโทษบ้าง.

เหตุการณ์สะเทือนใจ พ่อแม่ใจโหดฆ่าโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ สร้างความหดหู่ใจแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก หลังจากที่เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ตำรวจ สภ.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พาตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 40 มาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ฆ่าอำพรางศพ “น้องขวัญ” (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 2 ขวบโบกปูนอำพรางคดีบริเวณครัวหลังบ้าน หลังจากที่ทั้งสองอ้างว่าพลั้งมือทำร้ายลูกจนเสียชีวิต มีการโบกปูนไว้หนาประมาณ 5 ซม. ต้องใช้ค้อนทุบและขุดลึกลงไปอีก 60-70 ซม. โดยมีการเอาดินปนมาทับถุงดำที่ใส่ศพน้องไว้ถึง 3 ชั้น สภาพศพพบว่าเปื่อยเน่าหมดแล้ว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ขณะที่สองฆาตรกร เด็กอ้างว่าลูกเสียชีวิตในเดือน พ.ค. 66

โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้ถึงความโหดเหี้ยมของสองผัวเมีย เริ่มจาก กัน จอมพลัง ทีมงาน สก.เขตบางเขน นำตำรวจเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 12 และ 4 ปีที่ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย และแนวทางการสืบสวนพบว่า ครอบครัวนี้ยังมีลูกวัย 2 ขวบหายตัวไปด้วย ต่อมา ตำรวจได้จับกุมพ่อและแม่ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านรังสิต จ.ปทุมธานี ทั้งคู่รับสารภาพว่าร่วมกันทุบตีลูกสาววัย 2 ขวบจนเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพใส่รถเก๋งไปที่บ้านของแม่เด็กที่ จ.กำแพงเพชร แล้วฝังไว้ที่พื้นห้องครัวหลังบ้านดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 4 คน คนแรกอายุ 12 ขวบ เคยถูกพ่อทำร้าย เอาไฟแช็กลนทั้งตัว จนเป็นแผลเป็น ถัดมาเด็กอายุ 4 ขวบ ถูกพ่อฉีดน้ำเข้าตาจนตาบอด จับแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยยุ่ย คนที่ 3 อายุ 2 ขวบ คือ คนที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และทำการอำพรางด้วยการโบกปูน และก่อนเด็กเสียชีวิต ในเดือน พ.ค. 66 พบประวัติเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.กำแพงเพชร 2 ครั้ง ด้วยอาการตาบวม และอาการชัก และลูกคนสุดท้ายคนที่ 4 มีญาติให้การว่า เด็กอายุ 6 เดือน เมื่อแม่คลอดเสร็จก็ทิ้งไว้ให้ญาติเลี้ยงที่ จ.กำแพงเพชร โดยไม่มีการส่งเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบประวัติมือฆ่าโลูกบกปูน มีภรรยาทั้งหมด 4 คน ลูกหมด 10 คน ภรรยาคนที่ 1 มีลูกด้วยกัน 1 คน ภรรยาคนที่ 2 มีลูกด้วยกัน 5 คน เสียชีวิต 4 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ฝังดินทิ้งย่านสายไหม 2 คน ทิ้งย่านบางซื่อ 2 คน เหลือ 1 คน อายุ 12 ขวบ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือแล้วไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ พม. ภรรยาคนที่ 3 มีลูกด้วยกัน 3 คน เสียชีวิต 1 คน คือ ลูกสาววัย 2 ขวบ ฝังโบกปูนไว้ที่บ้าน จ.กำแพงเพชร ลูก 6 เดือน ฝากญาติเลี้ยง และอีก 1 คน อายุ 3 ขวบ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลืออยู่ที่สถานสงเคราะห์ ภรรยาคนที่ 4 มีลูกด้วยกัน 1 คน.

คดีต่อมา ช่างกลทรชน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ย. 66 ขณะที่ประชาชนต่างกำลังเร่งรีบ เพื่อเดินทางไปทำงานหรือไปเรียน จู่ ๆ มีรถ จยย.มาจอดข้างถนน จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นเปรี้ยง 1 นัด พร้อมกับร่างของ น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ล้มทรุดกองกับพื้นเสียชีวิตบริเวณตู้กดเงินเอทีเอ็ม ธนาคารธนชาต สาขาคลองเตย กรุงเทพมหานคร จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ก่อนร่างของ นายธนสรณ์ หรือน้องหยอด ห้องสวัสดิ์ นศ.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย บาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่ รพ. ก่อนที่ 2 คนร้ายจะเร่งเครื่องรถหลบหนีไป

ต่อมาตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุคือนักเรียนช่างกลคู่อริ ที่ตั้งองค์กรลับไล่เข่นฆ่านักเรียนต่างสถาบัน โดยมีเงินทุนจ้างทนายไว้คอยต่อสู้คดี เลยเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมได้หลายสิบคน แต่ละคนที่ต้นแขนจะมีประทับตราฟันเฟืองเป็นสัญลักษณ์ จากนั้นวันที่ 18 ธ.ค.66 ตำรวจจับกุมมือปืนที่ก่อเหตุได้แล้วคือ นายอนาวิน หรือวิน แก้วเก็บ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย เป็นคนขี่รถ จยย. คือ นายอับดุลเลาะ ดือราแม ที่ยังหลบหนีหัวซุกหัวซุน ซึ่งเหตุนักเรียนช่างกลไล่ฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน ยากที่จะแก้ไขได้โดยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่มีหน่วยงานใดจะจัดการหรือแก้ปัญหาได้ หรือว่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องเผชิญชะตากรรมอย่างนี้ตลอดไป.

คดีมหากาพย์ลุงพลบ้านกกกอก อีก 1 คดีมหากาพย์ที่สังคมจับตามาอย่างยาวนานกว่า 3 ปี 7 เดือน ทำให้เกิดเสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย จากเหตุ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 ต่อมาพบเป็นศพสภาพเปลือยกายบนเขาภูเหล็กไฟ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 พ.ค. 63 โดยคดีนี้มีผู้ต้องสงสัยเป็นญาติและคนใกล้ชิดรวม 14 คน 1 ในนั้นคือสองสามีภรรยา นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ที่น่าสงสัยที่สุดเนื่องจากลุงพลไม่สามารถบอกเวลาได้ว่า ช่วงน้องชมพู่หายตัวไปอยู่ที่ไหน โดยทั้งคู่ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการหายตัวหรือการเสียชีวิตของน้องชมพู่ อย่างไรก็ตามตำรวจแจ้งข้อหาลุงพล 4 ข้อหาและป้าแต๋น 1 ข้อหา

ต่อมาวันที่ 20 ธ.ค.66 ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดอ่านคำพิพากษาสรุปตัดสินว่าคดีนี้มีทั้งพยานและวัตถุพยานคือเส้นผมของเด็กที่ตกอยู่ในรถของลุงพล มีรอยลักษณะการตัดตรงกับเส้นผมที่เจอในที่เกิดเหตุ สั่งจำคุกลุงพลข้อหาการทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเวลา 10 ปี และจำคุกข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร เป็นเวลา 10 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 20 ปี ส่วนข้อหาอื่นยกฟ้อง รวมทั้งยกฟ้องป้าแต๋นด้วย แต่ให้ทั้งคู่ชดใช้ค่าเสียหายรายละ 1,100,000 บาท ต่อมาลุงพลยื่นโฉนดที่ดินมูลค่า 5 แสนบาทประกันตัวเพื่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าคดีนี้ยังไม่จบลงแค่นี้ น่าสู้กันถึงศาลฎีกาที่ต้องใช้เวลาอีกราว 5 ปี หรือในปี 2571 ที่จะทราบผลชะตากรรมของลุงพล.

มรสุมชีวิตส่งท้ายปี 2566 คงหนีไม่พ้นข่าวของ “สมรักษ์ คำสิงห์” ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐ เมื่อปี 2539 ที่ถูกสาวรุ่นลูกวัย 17 ปี แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ว่า ถูกนักมวยดังลวนลาม จับถอดเสื้อผ้าเปลือยร่างกาย ภายในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.

โดยสาว 17 ให้การกับตำรวจว่า ไปเที่ยวกับเพื่อนรวม 4 คน และเห็น “สมรักษ์ คำสิงห์” ยืนอยู่กับพนักงานรักษาความปลอดภัย ภายในร้านจึงเดินเข้าไปขอถ่ายรูป จากนั้น “พ่อใหญ่บาส” ได้จับมือและชวนให้อยู่ที่โต๊ะ ซึ่งเธอและเพื่อนอีกคน “อยู่ต่อ” ส่วนเพื่อนอีก 2 คน เดินกลับไปที่โต๊ะ ก่อนเธอจะเดินกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะของตัวเอง บอกว่า จะกลับห้องพักและเดินไปรอที่ลานจอดรถ จากนั้น “นักมวยดัง” เดินเข้ามาหา โดยมีคนอาสาขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงแรมที่เธอพักอยู่ โดยบอกให้เธอนั่งตรงกลาง และมี “สมรักษ์” นั่งซ้อนท้าย แต่คนขี่รถจักรยานยนต์กลับพาไปส่งที่โรงแรมอีกแห่งที่ “สมรักษ์” พักอยู่ เมื่อไปถึงถูก “สมรักษ์” ได้เดินจูงมือเข้าไปในโรงแรม โดยเธอบอกว่าถูกนายสมรักษ์ลวนลาม เธอพยายามขัดขืน และส่งข้อความให้เพื่อนมารับ ก่อนจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

เวลาต่อมา “สมรักษ์” ให้สัมภาษณ์กับหลายสื่อ ยืนยันว่า ไม่ได้ข่มขืนหญิงสาว อายุ 17 ปี ไม่มีเพศสัมพันธ์ และ “ไม่รู้” ว่า อายุเพียง 17 ปี เพราะเจอในสถานบันเทิง พร้อมตั้งทนายความสู้คดี

สุดท้ายฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเข้ามอบตัวพร้อมรับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อ 1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง 2.ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร 3.กระทำอนาจารแก่คนอายุเกิน 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย และ 4.พยายามข่มขืนผู้อื่นใช้กำลังประทุษ ร้าย แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธ พร้อมตั้งทนายความมาสู้คดี

ขณะ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แนะให้ พ่อใหญ่บาสรับสารภาพ โทษหนักจะได้เป็นเบา คดีนี้จะจบลงอย่างไรเป็นคำถามที่สังคมกำลังจับตาดู

พลุระเบิดมูโนะกับปัญหาส่วยในพื้นที่ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. เกิดโศกนาฏกรรม โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แรงระเบิดดังกล่าวทำให้พื้นที่โดยรอบเสียหายอย่างหนัก ทั้งร้านค้าและบ้านเรือน 200 หลัง เสียชีวิตหลายสิบราย บาดเจ็บกว่า 100 คน สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเกณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโกดังเก็บพลุระเบิดกลางตลาดมูโนะ ค่าจัดการศพคนละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บ 15,000-30,000 บาท โดยใช้เงินกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย

หลังเกิดเหตุเหมือนกับการเป็นวัวหายแล้วล้อมคอก นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งนายอำเภอ 878 แห่ง ตรวจสอบสถานที่ที่อาจเป็นโกดังเก็บดอกไม้ไฟ หรืออาคารลักลอบเก็บดอกไม้ไฟ จนตรวจยึดพลุที่บ้านพักและร้านค้าเจ้าของโกดังพลุมูโนะ ห่างจากโกดังเก็บดอกไม้เพลิงที่ระเบิดเพียง 150 เมตร พบพลุประมาณ 1 ตัน เรียกว่าเป็นคลังแสงดี ๆ นั่นเอง ไม่อยากจะนึกเลยถ้าตรงจุดนี้เกิดระเบิดขึ้นมาสภาพจะเป็นเช่นไร

ต่อมาตำรวจนราธิวาสออกหมายเรียกเจ้าของโกดังพลุระเบิดมูโนะ ขณะที่เจ้าตัวติดต่อขอมอบตัว วันที่ 1 ส.ค. ตรวจสอบเส้นทางนำเข้าพลุจากจีนส่งขายชายแดนภาคใต้ มีผู้ประกอบการ 5 รายใหญ่ ไม่มีใบอนุญาต ก่อนที่ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภาค 9 สั่งการให้ พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส สั่งย้ายตำรวจ สภ.มูโนะ 4 ราย คือ พ.ต.อ.สุธาเวชช์ ธารีไทย ผกก.สภ.มูโนะ, พ.ต.ท.อาลี วาเด็ง รอง ผกก.ป., สว.ป.และ สว.สส. ให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส

ทั้งนี้ได้มีเปิดเส้นทาง ส่วยพลุดอกไม้ไฟ ในพื้นที่นราธิวาส พบว่า เจ้าของกิจการต้องจ่ายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ขอใบอนุญาต ไปจนถึงถูกจับกุม เคลียร์ทุกอย่างโดยเฉพาะช่วงเทศกาล

ทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่สรุปคดีโกดังพลุระเบิดที่มูโนะ พบเจ้าหน้าที่กระทำผิด ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และรับส่วย 16 ราย พร้อมเอาผิด 7 บริษัท ลักลอบนำเข้าพลุดอกไม้ไฟขายให้เจ้าของโกดัง.

ต่อมา วัดฝีมือ ‘เศรษฐา’ กับปัญหาหมูเถื่อน ตลอด 3 เดือนของการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นาม “เศรษฐา ทวีสิน” ปัญหาหลากหลายด้านต่างถาโถมเข้ามา หนึ่งในนั้นคือ “หมูเถื่อน”

จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดจากการเข้าตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์ 161 ตู้ ภายในท่าเรือแหลมฉบัง พบว่า มีการซุกเนื้อหมู ชิ้นส่วนหมู ที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ เรื่องร้อนถึง ’ไชยา พรหมา“ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ถึงขั้นนั่งไม่ติดเก้าอี้ เรียกอธิบดีกรมปศุสัตว์มาพบเพื่อสอบถาม ก่อนจะลุยตรวจ และพบของกลางดังกล่าว

จากนั้นไม่นาน ดีเอสไอได้ลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนจะพบว่า ขบวนการนี้ไม่ธรรมดา มีข้าราชการ นักการเมือง ระดับบิ๊กเข้าไปมีเอี่ยว กระทั่งวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ คุมตัว 2 พ่อลูก กลุ่มนายทุนผู้สั่งการนำเข้าหมูเถื่อนที่ถูกออกหมายจับในข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และข้อหานำเข้าส่งออกสัตว์ หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ เข้าสอบปากคำ หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ

ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลว่า นำเข้าหมูเถื่อนมาตั้งแต่ปี 2564 เมื่อสินค้ามาถึงไทย ต้องเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ หากไม่เคลียร์จะไม่ได้ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง โดยค่าใช้จ่ายที่เช่าวางตู้คอนเทเนอร์ วันละ 3,000 บาท/วัน ดังนั้น ชิปปิ้งเอกชนก็ต้องนำเงินที่ได้รับจากนายทุน ไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง

ภายใน 1 ปี มีการจับกุมเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า โดยในปี งบประมาณ 2564 จับกุมได้เพียง 14 ราย น้ำหนัก 236,177 กิโลกรัม, ในปีงบประมาณ 2565 จับกุมได้ 25 ราย น้ำหนัก 431,660 กิโลกรัม และปีงบประมาณ 2566 จับกุมได้ 181 ราย น้ำหนักรวม 4,772,073 กิโลกรัม ต้องจับตาดูว่าขบวนการหมูเถื่อน ที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการในส่วนของกลุ่มชิปปิ้ง เป็นบริษัทที่นำเข้าหมูเถื่อนมา กลุ่มนายทุน และกลุ่มห้องเย็น รับซื้อหมูจากนายทุน จะลงเอยอย่างไร ถือเป็นการวัดฝีมือรัฐบาลภายใต้การนำของ ’เศรษฐา ทวีสิน“.

หากเอ่ยถึงชื่อ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือนายเชาวลิต ทองด้วง เชื่อว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยวีรกรรมวางแผนหลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช พร้อมกับลูกน้องคนสนิท เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตามตัว จุดเริ่มต้นของคดีนี้สืบเนื่องจากวันที่ 20 ต.ค. ขณะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว “เสี่ยแป้ง” มาทำการรักษาทันตกรรมตามการนัดของแพทย์ แต่ “เสี่ยแป้ง” เกิดอาการวูบหมดสติ แพทย์เข้าช่วยเหลือและให้รักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรม ชั้น 6 โดยที่ขาทั้งสองข้างมีตรวนเหล็กพันธนาการและยังมีโซ่ล่ามพันธนาการกับเตียงอีกชั้น แต่ปรากฏว่า “เสี่ยแป้ง” ได้ปลดเครื่องพันธนาการ ก่อนหลบหนีไปพร้อมลูกน้องคนสนิท และมีรถกระบะมารอรับพาตัวหลบหนีไป และเป็นที่น่าสังเกตว่าขณะที่เสี่ยแป้งหลบหนีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้แจ้งตำรวจทันที แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปถึง 3 ชม. และนำมาสู่การสืบสวนติดตามตัว “เสี่ยแป้ง” และผู้ช่วยหลบหนีไป

โดยสาเหตุคาดว่าน่าจะออกมาล้างแค้นผู้เกี่ยว ข้อง ที่เชื่อว่าเป็นเหตุให้เสี่ยแป้งแพ้คดีจนต้องโทษจำคุก ขณะเดียวกันกรมราชทัณฑ์ได้ตั้งเงินรางวัล นำจับ 1 แสนบาท ต่อมาชุดติดตามพบเบาะแสเสี่ยแป้งหนีไปหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาบรรทัด และนำมาสู่การปิดล้อมปะทะ โดยมีกระแสข่าวว่าเสี่ยแป้งถูกวิสามัญแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเสี่ยแป้งก็รอดพ้นการจับกุม ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเจ้าตัวได้นั่งสปีดโบ๊ตหนีไปอินโดนีเซีย พร้อมกับการเจ้าตัวออกมาถ่ายคลิปแฉเรื่องราวที่เกิดขึ้น.

ข่าวสุดท้ายก่อนผ่านพ้นปี 2566 กับคดีดังเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นารีพิฆาต…บทสรุปมหากาพย์ มาเก๊า888 เปิดศักราชปี 2566 ไม่นานก็ปรากฏข่าวการกวาดล้างเว็บพนันออนไลน์ “มาเก๊า 888” จุดเริ่มต้นมาจากดาราสาว “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัวทิ้งปริศนาแฉ 4 พี่น้อง “บ.” เปิดเว็บพนันออนไลน์ พร้อมชี้ช่องแจ้งเบาะแสให้ตำรวจช่วยตรวจสอบจนทำให้หลายคนพุ่งเป้าไปที่ “เบนซ์ เดม่อน” หรือนายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร อดีตเพื่อนชายคนสนิทที่เลิกรากันไป และนั่นเป็นห้วงเวลาเดียวกับพี่น้อง “บ.” ประกอบไปด้วยนายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร (เบนซ์ เดม่อน) อายุ 37 ปี, นายเอกชัย ขจรบุญถาวร (บอส) อายุ 35 ปี, นายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร (บิ๊ก) อายุ 32 ปีและร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร (ไบรท์) ตำแหน่งรองสารวัตรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตม.2 ขาออก อายุ 30 ปี จำต้องลบข้อมูลบนโซเชียลมีเดียของตัวเองออกทั้งหมด และเดินทางไปหลบอยู่ที่เกาะฮ่องกง หลังจาก ดิว-อริสรา ออกมาเปิดโปงได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง

และนำมาสู่ปฏิบัติการเช็กบิลเว็บพนันดังกล่าว จับกุมนายชัยวัฒน์ หรือเบนซ์ เดม่อน ขจรบุญถาวร กับพวกรวม 21 คน ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ แอดมิน คนดูแลระบบ คนทำบัญชี คนแต่งเพลง เป็นต้น ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ฯ สมคบกันฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงินฯ พร้อมยึดทรัพย์เครือข่ายทั้งหมด และจากผลพวงเว็บพนันมาเก๊า888 นี่เอง นำมาสู่การเปิดโปงหลักสูตรเทพ “กอส.” ที่น้องเล็กแห่งบ้าน 4 บ. “ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร” (ผู้กองไบรท์) ร่วมเรียนหลักสูตรนี้ ลุกลามการที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉเครือข่ายพนันออนไลน์ของกลุ่มเซเลบคนดัง อาทิ “สารวัตรซัว” พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล นายเมฆ รามา นักธุรกิจและเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต สามีของนักแสดงสาว หยาดทิพย์ ราชปาล และนำมาสู่การกวาดล้างจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์จำนวนมาก..