มุมดี-มุมเด่น” ของ “คนรุ่นใหม่” จำนวนไม่น้อยในยุคนี้คือ “ขยัน-กล้า” ที่จะ “ทำงาน-ทำอาชีพ แม้จะยังอยู่ในวัยเรียน ซึ่งก็เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง และก็มีรายได้ที่สามารถนำมาใช้สอยจับจ่ายเพื่อซื้อข้าวของที่ตนเองอยากได้ อย่างเช่นเส้นทางชีวิตของ “ตากล้องสาววัยรุ่น” ที่ชื่อ “น้องชล-ชล ทองจ่าม” คนนี้ ที่ “นำงานอดิเรกที่รักมาต่อยอดเป็นอาชีพสร้างรายได้” ที่วันนี้ “ทีมวิถีชีวิต” จะพาไปทำความรู้จักกับเธอ…

“น้องชล” หรือ “ชล ทองจ่าม” ปัจจุบันเธอเพิ่งเข้าเป็นนักศึกษาปี 1 สาขาศิลปกรรมการออกแบบ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็เป็น “ตากล้องสาววัยรุ่น” โดยสาววัยทีนคนนี้กลายเป็นที่รู้จักโด่งดังในโลกโซเชียล หลังจากที่ผู้พบเห็นได้มีการนำเรื่องราวของเธอมาโพสต์และแชร์กันอย่างล้นหลาม ด้วยภาพลักษณ์ “อาชีพช่างภาพวัยใส” ของเธอ โดยเธอได้บอกเล่าให้ “ทีมวิถีชีวิต” ฟังว่า เธออยากนำทักษะด้านการถ่ายภาพของเธอมาทำเป็นอาชีพในเวลาที่ว่างจากการเรียน ที่นอกจากจะช่วยเสริมรายได้เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวแล้ว ยังทำให้เธอได้ฝึกฝนทักษะอาชีพเพิ่มเติมไปในตัว และเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต โดยเธอยึดอาชีพรับจ้างถ่ายภาพให้คนทั่วไปและนักท่องเที่ยวหลังเลิกเรียน หรือในช่วงวันหยุด ซึ่ง “ทำเลที่ทำงาน” ของเธอนั้น ก็คือแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังโด่งดังของ จ.เชียงใหม่ อย่าง “คลองแม่ข่า-สะพานระแกง” นั่นเอง

เริ่มมีคนรู้จักชลมากขึ้น จากการที่มีคนถ่ายภาพและนำไปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต เป็นภาพที่ชลถือป้ายกระดาษเขียนด้วยปากกาเมจิก ที่มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษว่า รับจ้างถ่ายภาพ เริ่มต้น 30 ภาพ 50 บาท หากไม่ชัวร์ ขอถ่ายฟรีให้ 5 ภาพ ก่อนตัดสินใจ พร้อมกับแต่งภาพให้ฟรี ไม่คิดเพิ่ม ตากล้องสาววัยรุ่นพูดถึงจุดที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักของผู้คน

ทั้งนี้ เธอเล่าประวัติตัวเองให้ฟังว่า ปัจจุบันนี้เธออายุ 19 ปี และที่มาของแรงบันดาลใจที่ลุกขึ้นมาทำงานรับจ้างถ่ายภาพ น้องชลบอกว่า ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เกิดจากความคิดของเด็กคนหนึ่งที่อยากได้ของเล่น จึงต้องการออกมาทำงานเพื่อหารายได้นำไปซื้อของเล่นที่อยากได้ โดยที่ไม่ต้องรบกวนขอเงินจากพ่อแม่ ซึ่งของเล่นที่ว่าก็คือ เข็มขัดคาเมนไรเดอร์ (Kamen Rider) หรือ “ไอ้มดแดง” ของ มินามิ โคทาโร่ ที่มีสนนราคาหลักหลายพันบาท กับอีกอย่างคือเพราะเธออยากได้ กล้องฟิล์มตัวท็อปรุ่นเก่า ยี่ห้อ Canon เพราะเธอชอบและหลงใหลการถ่ายภาพด้วยฟิล์มมาก ๆ  

จริง ๆ มีกล้องฟิล์มอยู่แล้ว 1 ตัว แต่หนูอยากได้ตัวท็อปรุ่นเก่า ๆ ที่ใช้เลนส์มือหมุน ซึ่งหนูก็เคยคุยกับคุณพ่อเหมือนกันว่าอยากได้กล้องถ่ายภาพรุ่นนี้ แต่ท่านบอกว่าราคาคงแพง คุณพ่อไม่มีเงิน จึงยังซื้อให้ไม่ได้ ทำให้หนูคิดในใจว่าคงไม่ได้กล้องตัวนี้แล้วแหละ หนูจึงคิดว่าเราน่าจะลองหาวิธีหาเงินด้วยตัวเองจะดีกว่า และด้วยความที่หนูเป็นสายถ่ายภาพอยู่แล้ว ก็เลยมองว่าน่าจะใช้ทักษะที่มีอยู่นี้ทำอาชีพได้ ซึ่งเอาจริง ๆ ปกติหนูก็ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพคนเท่าไหร่ เพราะแนวถ่ายภาพที่ชอบส่วนใหญ่จะเน้นถ่ายวิวธรรมชาติและสถานที่มากกว่า เธอบอกเรื่องนี้กับเราไว้

ผลงานบางส่วนของเธอ

ก่อนเล่าให้ฟังอีกว่า เธอมีพื้นฐานการถ่ายภาพมาก่อนที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เนื่องจากสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเธอเคยเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ ก็เลยมีพื้นฐานการถ่ายภาพจากตรงนี้ และเธอก็มีกล้องถ่ายรูปประจำตัวอยู่แล้ว เป็นกล้องถ่ายภาพยี่ห้อ Canon ที่คุณพ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ก็เลยเอาทั้งหมดที่มีอยู่ตรงนี้มาทำอาชีพรับจ้างถ่ายภาพ

หนูก็มีผลงานถ่ายภาพอยู่บ้าง แบบถ่ายเพื่อน ๆ ซึ่งเพื่อนก็ชมกันว่าหนูถ่ายรูปสวย ถ่ายออกมาแล้วถูกใจ เพื่อนจึงแนะนำว่าให้หนูลองไปรับจ้างถ่ายภาพดูไหม หนูก็เก็บเอามาคิด ซึ่งพอดีคลองแม่ข่าเพิ่งเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และมีคนไปเดินเยอะมาก หนูก็อยากให้เขาได้มีภาพสวย ๆ กลับไปเป็นที่ระลึก ก็เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมา ว่าหนูลองมารับจ้างถ่ายภาพดีไหม คิดแบบโง่ ๆ เลย (หัวเราะ) แล้วหนูก็ไปหากระดาษแข็งมาใช้เมจิกเขียนเป็นป้าย กับเจาะรูใส่เชือกแขวนคอ แล้วเดินไปทั่วเลย ปรากฏมีคนสนใจเข้ามาถามและใช้บริการถ่ายภาพเยอะมาก แถมเขาชมว่าน้องขยันจัง ทำให้เรารู้สึกลอยเลย จริง ๆ ตอนนั้นที่นี่มีแค่หนูคนเดียวที่ทำแบบนี้ ตอนนั้นไม่มีใครทำแบบนี้เลย

เธอยังเล่าอีกว่า ตอนนี้ที่ คลองแม่ข่า มีแต่คนรู้จักเธอ ทำให้ในแต่ละวันเธอจะมีเรื่องเล่าตลกเยอะ เช่น คนเชียงใหม่ไม่มีใครจ้างเธอ แต่คนต่างจังหวัดจ้าง หรือมีคุณป้าคนหนึ่งอยู่รังสิต และเข้ามาใช้บริการถ่ายภาพ พร้อมกับถามว่าเธอรับจ้างถ่ายภาพอยู่ที่คลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพฯ ใช่ไหม (หัวเราะ) จนเธอต้องปฏิเสธ และบอกไปว่า เธอเป็นคนที่นี่ ไม่เคยไปรับจ้างถ่ายภาพที่กรุงเทพฯ ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการนั้น ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาติดต่อให้ถ่ายภาพจะเป็นผู้ชาย เพราะหลายคนที่พาภรรยาหรือแฟนมาเที่ยวไม่ค่อยสันทัดการถ่ายภาพ แต่อยากให้แฟนหรือภรรยามีภาพสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก ก็จะมาไหว้วานหรือจ้างเธอให้ถ่ายภาพ

ออกฟิลด์ถ่ายภาพ

คนที่ดี ๆ หนูเจอเยอะมาก แต่ที่ตรงข้ามหนูก็เคยเจอนะ (หัวเราะ) เช่นบางคนโทรศัพท์มาตี 2 หนูไม่ได้รับ ตื่นเช้ามาหนูก็เปิดดูข้อความ ปรากฏเขาส่งข้อความต่อว่าหนู ว่าหนูไม่รับถ่ายแล้วใช่ไหม? ทำไมไม่รับสาย? ซึ่งหนูก็งง ๆ อึ้ง ๆ นะ ว่ามันตี  2 นะ ซึ่งคนที่โทรศัพท์มาแบบนี้ เอาจริง ๆ หนูก็ไม่รู้ว่าเขาคิดจะป่วนหนูเล่นหรือเปล่า ถึงเวลาจริง ๆ เขาจะจ้างจริงมั้ย ซึ่งหนูก็เขียนรายละเอียดชัดเจนเอาไว้แล้วว่า งดโทรศัพท์ติดต่อตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไปนะ เพราะหนูจะต้องทำงานและส่งไฟล์ให้ลูกค้า แถมหนูยังต้องเรียนด้วย แต่จริง ๆ แบบที่ไม่ดีนี่มีแค่ส่วนน้อย ที่ดี ๆ มีเยอะมากกว่า อย่างบางคนไม่เร่งไม่อะไรหนูเลย จนหนูเกรงใจ แต่เขาก็บอกว่าเขารู้ว่าหนูเป็นนักศึกษา คงต้องเรียน บางครั้งหนูส่งรูปให้ช้า เขาก็ไม่ว่าอะไรหนู เขาก็บอกพี่เข้าใจจ้ะ ตากล้องสาวบอกเล่า

ส่วนสนนราคา “ค่าจ้างถ่ายภาพ” นั้น น้องชล บอกว่า สำหรับค่าบริการถ่ายภาพเฉพาะที่ คลองแม่ข่า เธอจะคิดราคา 30 ภาพ 50 บาท โดยรายได้เฉลี่ย แบบไม่รวมทิปหรือน้ำใจพิเศษที่คนจ้างมอบให้นั้น อยู่ที่ประมาณวันละ 200-300 บาท โดยเธอจะทำงานตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 2 ทุ่ม ขณะที่ในวันหยุด บางครั้งเธอก็จะรับงานถ่ายภาพนอกสถานที่ เช่น งานเลี้ยง, งานทำบุญ, งานรับปริญญา โดยจะคิดเรตราคาครึ่งวัน  300 บาท แต่ถ้าเป็นการจ้างถ่ายภาพเต็มวัน ก็จะอยู่ที่ 500 บาท

คนมักบอกว่าทำไมราคาค่าจ้างมันถึงถูกมาก ๆ แบบนี้ หนูก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเป็นการพัฒนาฝึกปรือฝีมือตัวเอง และที่สำคัญหนูยังได้ทำในสิ่งที่รักและชอบ

เมื่อถามถึงความรู้สึกตอนที่ได้รับเงินจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองครั้งแรก เธอบอกว่า ความรู้สึกแรกคือ…ว้าว!! และคิดว่าเรามีหวังแล้วที่จะได้เข็มขัดไอ้มดแดงรุ่นที่เราอยากได้มาก ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นดีใจ ซึ่งตอนที่เริ่มทำใหม่ ๆ จะลุ้นทุกครั้งที่มีคนเข้ามาสอบถามราคา ว่าเขาจะจ้างเราไหม? ซึ่งตอนที่คุณพ่อรู้ว่าเธอรับจ้างถ่ายภาพ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่เตือนว่าอย่าให้เสียการเรียน และให้ระวังเรื่องลูกค้าที่เป็นผู้ชาย เพราะเธอเป็นเด็ก ซึ่งก็จริง ๆ เพราะมีลูกค้าผู้ชายที่เข้ามาพูดแซวหรือพูดจีบอยู่บ้าง แต่ก็เป็นธรรมดา โดยเธอมองว่า ขึ้นอยู่กับการวางตัว ซึ่งถ้าวางตัวเป็น ก็ไม่มีปัญหาอะไร

ทั้งนี้ ก่อนจบบทสนทนา “น้องชล” บอก “ทีมวิถีชีวิต” ว่า เธอมีความฝันเดียวคือทำงานใน “อาชีพช่างภาพ” ซึ่งเป็นความฝันที่เธอจะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะเธอรักการถ่ายภาพมาก โดยการรับจ้างถ่ายภาพอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ เธอบอกว่า แม้ถึงวันที่หนูเก็บเงินได้ครบจนซื้อของที่อยากได้ได้แล้ว หนูก็จะยังทำต่อไป เพราะจะได้ฝึกฝนทักษะถ่ายภาพเพิ่ม…

ได้ฝึกให้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ….

‘FC พระเอกไอ้มดแดงยุคเก่า’

สำหรับความชื่นชอบ “ไอ้มดแดง” ของ “น้องชล-ชล ทองจ่าม” คนนี้นั้น เรื่องนี้มีที่มา โดยเธอเล่าว่า ที่ออกมาทำงานรับจ้างถ่ายภาพเพราะเธออยากเก็บเงินเพื่อซื้อ “เข็มขัด Kamen Rider เนื่องจากเธอชอบไอ้มดแดงมาก โดยเฉพาะ “พระเอก” อย่าง “มินามิ โคทาโร่” เพราะเธอมองว่าพระเอกคนนี้หล่อมาก คือหนูมองว่าเขาหล่อมาก (หัวเราะ) ถ้าหนูได้เข็มขัดเขามาใส่ มันก็เหมือนหนูได้อยู่ข้าง ๆ เขา ซึ่งมินามินี้เป็นไอ้มดแดงยุคเก่า ที่ออกฉายประมาณปี 2512-2514 ส่วนไอ้มดแดงยุคใหม่ ๆ หนูไม่ค่อยดู เพราะไม่ค่อยชอบ ซึ่งสำหรับหนู หนูว่าไอ้มดแดงยุคเก่านั้นคลาสสิกมากที่สุด.

เชาวลี ชุมขำ : รายงาน