วันที่ 8 มี.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566  หลังจากสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือขยายระยะเวลาออกไปอีก 18 เดือน

โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถเพื่อยกระดับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย ปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันและมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมให้ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ตลอดจนลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศในระยะยาวต่อไป

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯที่ผ่านมา มาจากเงินทุนร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) โดย GEF สนับสนุนเงินจำนวน 1.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฝ่ายไทยร่วมสมทบงบดำเนินการที่อยู่ในรูปแบบเงินสด และไม่อยู่ในรูปแบบเงินสดจากกระทรวงอุตสาหกรรมจำนวน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ในฐานะหน่วยงานร่วมดำเนินการสำหรับเงินกู้สำหรับเอสเอ็มอี ที่เข้าร่วมโครงการ หรือที่สนใจกู้เพี่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์จำนวน 7.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาโครงการฯ ยังมีกิจกรรมที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น การปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ของเอสเอ็มอี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ใช้เงินที่ได้รับสนับสนุนจาก GEF ไปจำนวน 0.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คงเหลือ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในส่วนของงบดำเนินการที่อยู่ในรูปแบบเงินสดและที่ไม่ใช่เงินสดจากกระทรวงอุตสาหกรรม 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และวงเงินสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีจากธพว.จำนวน 7.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่า ยังไม่ได้มีการเบิกจ่าย ดังนั้นจึงต้องขอขยายระยะเวลาโครงการฯออกไปอีก 18 เดือน สิ้นสุดโครงการวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ได้สำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์