เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. รรท.ผบช.ปส. พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดสำคัญ รวม 5 คดี

คดีที่ 1 ตำรวจ บก.ปส.3 จับกุม นายอนนต์ และนายชัยวัฒน์ พร้อมไอซ์ จำนวน 600 กิโลกรัม บริเวณบ้านช่องสำราญ ตำบลวะตะแบกอ อำเภอทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ต่อเนื่องริมถนนชงโคเขาน้อย ตำบลลำสะพุง อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี จากนั้นตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับ บก.ขส. นำข้อมูลเครือข่ายนี้มาสืบสวนขยายผลจนพบว่า ยาเสพติด ถูกลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ซึ่งช่วงเย็นของวันที่ 20 ต.ค. 2567 พบความเคลื่อนไหวของเป้าหมายเดินทางออกจากพื้นที่ อำเภอท่าคันโท จีงหวัดกาฬสินธุ์ มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังไว้ตามเส้นทางที่คาดว่ารถเป้าหมายจะขับผ่าน จนเวลาประมาณ 21.50 น. พบรถต้องสงสัยวิ่งตามกันมาบนเส้นทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมาและเข้าทางพิเศษ M6 โดยสลับกันขึ้นนำและตามตลอดเส้นทาง

กระทั่งเวลา 00.05 น. ของวันที่ 21 ต.ค. 2567 รถเป้าหมาย 2 คัน คือ รถกระบะโตโยต้าวีโก้สีดำ หมายเลขทะเบียน บว 35xx กาฬสินธุ์ มีนายสาธิต เป็นผู้ขับขี่ มาพร้อมกับ นางสาวเหมี่ยว ภรรยา และรถตู้ หมายเลขทะเบียน นข 36xx บุรีรัมย์ มีนายสมศักดิ์ ขับขี่ และนายรังศิธร โดยสารมาด้วย (ทราบชื่อภายหลัง) ขับเข้าไปจอด ในปั๊มน้ำมันบางจากถนนมิตรภาพ ชุดจับกุมประกอบด้วย ตำรวจ บก.ปส. 3 ร่วมกับศูนย์ข่าวกรองกรุงเทพมหานคร บก.ขส. และ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฎิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้แสดงตัวขอตรวจค้น เบื้องต้นตรวจค้นรถตู้ พบกระสอบใบใหญ่ถูกวางไว้ภายในห้องโดยสารทั้งสิ้น จำนวน 15 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้า รวม 679 แพ็ค จำนวน 6,790,000 เม็ด จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า ได้รับการว่าจ้าง โดยติดต่อทางโทรศัพท์ และทางแอปพลิเคชันไลน์เพื่อให้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างเตรียมขยายผลหาผู้สั่งการต่อไป

คดีที่ 2 ตำรวจ บก.ปส.2 จับกุม นายสมศักดิ์ พร้อมไอซ์ จำนวน 500 กิโลกรัมบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จึงสืบสวนขยายผลรถยนต์ของเครือข่ายที่หลบหนีการจับกุมเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2567 ไป ตำรวจจึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว กระทั่งวันที่ 20 ต.ค. 2567 พบมีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ และขับเข้ามาในพื้นที่ อำเภอเมืองนครพนม ตำรวจจึงวางกำลังตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่ารถยนต์คันดังกล่าวจะใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จนเวลาประมาณ 00.15 น. ของวันที่ 21 ต.ค. 2567 รถยนต์คันดังกล่าวกำลังวิ่งอยู่บนถนนนิตโย มุ่งหน้า อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร

กระทั่งมาจอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ชุดจับกุมจึงเข้าสกัดทันที พบ นายธวัชชัย คนขับ และ นายณัฐนนท์ คนโดยสาร ก่อนจะควบคุมทั้ง 2 คน มาตรวจค้นรถ พบกระสอบสีรุ้งภายในรถ จำนวน 10 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้ากระสอบละ 400,000 เม็ด รวมยาบ้า 4,000,000 เม็ด สอบถามผู้ต้องหา 2 คน ยอมรับว่า ยาบ้าของกลางดังกล่าว เป็นของตนเองจริงและจะนำไปส่งให้กับลูกค้าที่กรุงเทพมหานคร

คดีที่ 3 ตำรวจบก.ปส.2 จับกุม นายพิพัฒน์ กับพวกรวม 3 คน พร้อมยึดของกลางยาบ้า 1,500,000 เม็ด ได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมันคาล์เท็กซ์ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะขยายผลพบว่าเครือข่ายดังกล่าว ยังมีการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางอย่างต่อเนื่อง กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 21 ต.ค. 2567 ตำรวจชุดจับกุมหน่วยปราบปรามยาเสพติดอุดรธานี กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับศูนย์ข่าวกรองยาเสพติดอุดรธานี และกรุงเทพมหานคร บก.ขส. พบรถเป้าหมายขับเข้าไปในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ตำบเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และได้ติดตามอย่างใกล้ชิด

ต่อเนื่องวันที่ 22 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 07.15 น. ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าสกัดรถเป้าหมายเป็นรถยนต์โตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีเทา ทะเบียน ชศ 45xx กทม. ได้บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 201 มุ่งหน้าจังหวัดขอนแก่น ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย พบ นายเอกชัย คนขับขี่ ได้พยายามเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีลอดรั้วลวดหนามเข้าไปในสวนริมถนน ก่อนจะถูกจับกุมตัว และนำมาตรวจค้นภายในรถยนต์ พบกระสอบต้องสงสัยถูกวางในห้องโดยสาร จำนวน 4 กระสอบ และกระโปรงท้ายรถยนต์ จำนวน 3 กระสอบ รวม 7 กระสอบ ภายในบรรจุไอซ์ น้ำหนัก 300 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหา ได้พกพาอาวุธปืนพกลูกโม่ ขนาด .38 นิ้ว มาด้วย 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 55 นัด

คดีที่ 4 ตำรวจ บก.ปส.2 จับกุม นายศักดิ์สิทธิ์ และนายอนุชิต พร้อมยาบ้า จำนวน 6,702,400 เม็ด, ยาอี จำนวน 1,000 เม็ด, Ecstasy หรือ MDMA จำนวน 10 ก้อน น้ำหนัก 1 กก., ยาไฟว์ไฟว์ จำนวน 1,400 เม็ด, ระเบิดลูกเกลี้ยง M 26 จำนวน 7 ลูก บริเวณภายในใบทองธารารีสอร์ทใน ตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงสืบสวนขยายผลจากกลุ่มลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จนวันที่ 15 ต.ค. 2567 พบกลุ่มรถยนต์ที่เฝ้าระวังจำนวน 3 คัน มีความเคลื่อนไหวเข้ามาในพื้นที่ชายแดน จังหวัดหนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ จึงได้จัดกำลังติดตาม จนมาพบรถยนต์ทั้ง 3 คัน คือ รถยนต์ TOYOTA ALTIS สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆษ 21xx กทม. รถยนต์ HONDA ACCORD สีขาว หมายเลขทะเบียน ขห 91xx เชียงใหม่ และรถยนต์ MITSUBISHI PAJERO สีดำเทา ทะเบียน ฎข 29xx กทม. วิ่งบนถนนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเพชรบูรณ์

ก่อนที่รถยนต์ทั้ง 3 คัน ขับเข้าไปบริเวณบ้านสวนเกษตรรีสอร์ท ตำบลท่าพล อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน ๔ คน คือ 1.นายเอกรินทร์, 2.นางสาวเสาวรส, 3.นายอรรถพงษ์ และ 4.นายมนัส ตรวจสอบภายในรถยนต์ TOYOTA ALTIS สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆษ 21xx กทม. พบยาเสพติดถูกวางไว้ภายในห้องโดยสาร เป็นยาบ้า จำนวน 1,000,000 เม็ด, ไอซ์ จำนวน 160 กิโลกรัม และคีตามีน จำนวน 40 กิโลกรัม และได้นำตัวนายเอกรินทร์ มาทำการตรวจค้น รถยนต์ TOYOTA ALTIS หมายเลขทะเบียน กบ 32xx ฉะเชิงเทรา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สอบถามนายเอกรินทร์ให้การว่านำรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้เพื่อรอถ่ายยาเสพติด เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่าย

ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

คดีที่ 5 ตำรวจ บก.ปส.4 จับกุม นายมาโนชญ์ และ นางสาวโชติกา พร้อมไอซ์ จำนวน 549 กรัม ในพื้นที่อำเภอเมือง จีงหวัดกาญจนบุรี ตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดกาญจนบุรี บก.ปส.4 ได้เข้าสอบปากคำเพื่อขยายผล กระทั่งพบเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ จากนั้นตำรวจจึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนี้ กระทั่งวันที่ 14 ต.ค. 2567 พบรถยนต์เป้าหมายคือ MU-X หมายเลขทะเบียน กธ 8xxx ประจวบคีรีขันธ์ ขับจากพื้นที่ภาคใต้ ขึ้นไปยังพื้นที่ภาคกลาง และขับกลับเข้ามาในพื้นที่ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มาพบกับรถยนต์ D-MAX หมายเลขทะเบียน 1 กส 2xxx กรุงเทพมหานคร ในลักษณะขับนำหน้า และตามหลังกันมา ชุดจับกุมจึงทำการประสานตำรวจ สภ.ท่ามะกา เพื่อตั้งจุดสกัดที่ถนนแสงชูโต บ้านท่ามะกา หมู่ 4 ตำบลท่ามะกา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 หน่วยปราบปรามยาเสพติดกาญจนบุรี ร่วมกับตำรวจในพื้นที่, ทหาร และ ป.ป.ส.ภาค 7 จึงเรียกรถต้องสงสัยให้หยุด
เพื่อตรวจสอบ

พบรถยนต์ D-MAX หมายเลยทะเบียน 1 กส 2xxx กรุงเทพมหานคร มีนายมาโนชญ์ เป็นผู้ขับขี่ และ นางสาวโชติกา โดยสารมาด้วย ตรวจสอบไม่พบสิ่งของต้องสงสัย เบื้องต้นทราบว่า เป็นรถขับสำรวจเส้นทาง ส่วน รถยนต์คันที่ 2 MU-X หมายเลขทะเบียน กธ 8xxxประจวบคีรีขันธ์ มีนายเรวัตร เป็นผู้ขับขี่ มี นางสาวอริสรา โดยสารมาด้วย ตรวจค้นภายในรถพบกระเป๋าเป้ใบใหญ่จำนวน 8 ใบ และใบเล็ก จำนวน 1 ใบ ถูกวางไว้บริเวณเบาะนั่งแถว 2 และ 3 ภายในห้องโดยสาร ในกระเป๋าพบ ไอซ์ ถูกบรรจุอยู่ในหีบห่อของถุงใบชาสีทอง รวมทั้งสิ้น จำนวน 300 กิโลกรัม สอบปากคำนายเรวัตร ยอมรับว่า มีนายแชมป์ว่าจ้างให้ตนเองลำเลียงไอซ์ จาก อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จริง ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมขยายผลไปยังผู้จ้างวานต่อไป

สรุปผลการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดประจำปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 1-20 ต.ค. ที่ผ่านมา จับกุมเครือข่ายผู้ค้ารายสำคัญ 12 คดี, ผู้ต้องหา 29 คน ยึดของกลาง ยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด ,ไอซ์ กว่า 1,300 กิโลกรัม และ คีตามีน 40 กิโลกรัม พร้อมด้วยรถยนต์ของกลาง ยึดทรัพย์สินมูลค่า 92 ล้านบาท

โดยการจับกุมเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. พบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีมากกว่า 10 ราย มีพฤติกรรมลักษณะ เครือข่ายนักบินหรือรับจ้างขนส่งยาเสพติดโดยเฉพาะ จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือและภาคอีสาน ลำเลียงตามเส้นทางหลักและเส้นทางรองเข้าสู่พื้นที่ชั้นในบริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นแหล่งซุกซ่อนก่อนจะทำการกระจายยาเสพติดไปยังลูกค้าและเครือข่าย

สำหรับภาพรวมการจับกุมที่ผ่านมา ในปี 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายยาเสพติดได้ 260,506 คดี ผู้ต้องหา 268,679 คน เฉลี่ยอายุ 30-50 ปี ของกลางประกอบด้วยยาบ้ากว่า 1,100 พันล้านเม็ด ไอซ์ 25.4 ตัน เฮโรอีน 1.6 ตัน คีตามีน 5.6 ตัน โดยยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดได้กว่า 12,000 ล้านบาท

พล.ต.ท.นิรันดร เปิดเผยว่า นอกจากการเดินหน้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติดแล้วรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายชุมชนยั่งยืนปลอดยาเสพติด ทั้งระดับตำบลและระดับอำเภอซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และได้รับผลตอบรับจากผู้ป่วยยาเสพติดเข้าร่วมโครงการ.