เมื่อวันที่ 23 ก.ค. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 มอบหมายให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 และ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 นำกำลังตำรวจไซเบอร์ สนธิกำลังร่วมกับ นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน กสทช. สายงานกิจการภูมิภาค นายสัญญา กระจ่างศรี ผอ.สำนักงาน กสทช. ภาค 2 และ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ร่วมนำเจ้าหน้าที่จำนวนหลายสิบนาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้น พื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ ประกอบด้วย
จุดที่ 1 ร้านจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แห่งหนึ่ง ใน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จุดที่ 2 ร้านขายส่งอิฐ หิน ปูน ทราย และผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพื่อการก่อสร้าง ใน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จุดที่ 3 ร้านจำหน่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ IT แห่งหนึ่ง ใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และจุดที่ 4 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งหนึ่ง ใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
จากการเข้าตรวจค้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำการรื้อถอนอุปกรณ์ส่งสัญญาณ เช่น ตัวส่งสัญญาณ จานดาวเทียม สายไฟฟ้า และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย และ สภ.รัตนวาปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐาน “มี ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม และตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ 2498” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ/หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท และอาจมีความผิดฐาน “การประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ 2544” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท
โดยปฎิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้กำชับให้ บช.สอท. ขับเคลื่อนนโยบาย “ซิม สาย เสา” ในการตัดวงจรการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นกลวิธีสำคัญในการป้องกันและปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ทั่วประเทศตรวจสอบการลักลอบส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการเร่งตัดช่องทางในการก่อเหตุของแก๊งมิจฉาชีพ.