จูเลียส อับราฮัม คุณพ่อลูกสามวัย 54 ปีจากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ อ้างว่าคนชอบทักว่าเขาหน้าเด็กกว่าอายุจริงราว ๆ 30 ปี เพราะเคล็ดลับที่ได้มาจากช่องยูทูบช่องหนึ่งช่วยให้ใบหน้าของเขายังคงดูอ่อนเยาว์ แทบไม่มีริ้วรอย
อับราฮัมเล่าว่า เมื่อ 18 ปีก่อน เขาเริ่มดื่มน้ำที่ได้จากการนึ่งผักอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าของช่องยูทูบช่องหนึ่งซึ่งทำแบบเดียวกัน
อับราฮัมซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 36 ปีบอกว่าในคลิปวิดีโอทางยูทูบที่เขาได้ดูนั้น เป็นคลิปของผู้หญิงคนหนึ่งที่เน้นการรับประทานอาหารแบบไม่ปรุงสุก และดื่มน้ำที่ได้จากผักผลไม้เหล่านั้น เขาตัดสินใจที่จะทำตามผู้หญิงคนนั้นบ้าง เพราะเธอดูอ่อนเยาว์เหมือนคนอายุ 30 ปี ทั้งที่เธออายุได้ 70 ปีแล้ว และปรากฏว่ามันได้ผลดี
อับราฮัมซึ่งทำงานหลายอย่าง ทั้งเป็นนักแสดงตลก, พิธีกรรายการเกมตอบคำถามและผู้จัดรายการประมูลรถยนต์ อธิบายว่าเขาดื่ม “น้ำผักนึ่ง” ทุกวันไม่ขาด โดยจะเลือกนึ่งผักต่างชนิดกันไป
ส่วนใหญ่แล้วเขาจะใช้แคร์รอตประมาณ 1 ถุง, ผักเคลครึ่งถุง, บรอกโคลี 1 หัว, ดอกกะหล่ำครึ่งหัวและแตงกวาซูกินี 1 ผล
หนุ่มใหญ่หน้าเด็กจะนำผักไปล้างในน้ำเดือด ปอกเปลือกออกและหั่นเป็นชิ้น ๆ จากนั้นก็นำไปใส่ในหม้อนึ่ง
หลังจากที่นึ่งผักเรียบร้อยแล้ว เขาจะปล่อยผักทิ้งไว้ในหม้อแบบข้ามคืน เพื่อให้ไอน้ำจากการนึ่งเกิดการควบแน่นกลับมาเป็นหยดน้ำซึ่งจะไหลลงไปอยู่ใต้ถาดรองผัก เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็จะมีน้ำผักนึ่งพร้อมดื่มและผักมากมายรอให้รับประทาน
อับราฮัมเชื่อว่าน้ำผักนึ่งทำให้ใบหน้าของเขาอ่อนเยาว์จนมีคนทักอายุผิดบ่อย ๆ มันได้ผลดียิ่งกว่าเครื่องสำอางบำรุงผิวใด ๆ และคุยอวดว่าแฟนสาวของเขาอายุเพียง 27 ปี แต่คนอื่น ๆ กลับมองไม่เห็นว่าพวกเขาเป็นคนต่างช่วงอายุกัน
อับราฮัมกล่าวว่า การนึ่งผักทำให้เขาได้น้ำผักที่มีประโยชน์ทางโภชนาการเอาไว้ดื่มและมีผักนึ่งมากมายสำหรับรับประทาน ถือว่าได้ประโยชน์สองเท่า เมื่อก่อนเขาเคยบีบมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ตอนนี้เขาชินกับรสของน้ำผักนึ่งแล้ว และคิดว่าน้ำผักนึ่งแบบนี้มีรสหวานอยู่แล้ว
อับราฮัมเผยว่าเขาต้มผักก่อนนึ่งเพื่อล้างยาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่ในผัก นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนจากการดื่มน้ำประปามาเป็นการดื่มเฉพาะน้ำที่ผ่านการกรองแล้วหรือน้ำดื่มบรรจุขวดเท่านั้น
ตามข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการระบุว่า การนึ่งคือการปรุงอาหารประเภทผักที่ดีกว่าวิธีอื่น เพราะมีการใช้น้ำน้อยและให้ความร้อนแบบทางอ้อม ซึ่งทำให้ผักสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้มาก รวมทั้งให้รสชาติและผิวสัมผัสที่ดีกว่า
นอกจากนี้ วิตามันที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินซี, วิตามินบี6 หรือวิตามินบี12 เป็นกลุ่มวิตามินที่แนวโน้มจะโดนทำลายหรือสูญหายได้มากที่สุดระหว่างการปรุงอาหารหรือระหว่างนำอาหารไปผ่านกระบวนการแปรรูป โดยเฉพาะวิตามินซีนั้น “บอบบาง” มากและมักจะสูญหายได้ง่ายตั้งแต่กระบวนการเก็บรักษาและขนส่งแล้ว
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES