เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่วัดบางปลานัก จ.ฉะเชิงเทรา นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีทอดผ้าบังสุกุลบำเพ็ญกุศลครบรอบ 1 ปี ให้ผู้เสียชีวิต 19 ราย จากอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าตู้คอนเทเนอร์ ชนกับรถบัสโดยสาร บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น จ.ฉะเชิงเทรา ว่า รฟท. ให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ และบริเวณจุดตัดทางรถไฟที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือทางลักผ่านอย่างเข้มข้น โดยที่ผ่านมาแก้ปัญหาแล้วหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น-สถานีคลองบางพระ จ.ฉะเชิงเทรา
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุ รฟท. ได้ดำเนินการในส่วนที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่โดยได้อนุมัติให้บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่นฯ เป็นจุดตัดเสมอระดับทางที่ถูกต้องตามระเบียบของ รฟท. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบอาณัติสัญญาณ ป้ายเตือน ไฟกะพริบ และดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์กำจัดวัชพืช ต้นไม้ริมทาง เพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัยของผู้สัญจรผ่านบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางฯ ดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ให้ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม รฟท. เข้าไปดำเนินงานจ้างเหมา ปรับปรุงระบบสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีแดง และอุปกรณ์เสียงสัญญาณเตือนด้วยระบบเซ็นเซอร์ ตรวจสอบขบวนรถไฟ และป้ายเตือนกะพริบแสงในเส้นทางสายตะวันออกตลอดเส้นทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถ
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหารือกับทางจังหวัดฉะเชิงเทรา หน่วยงานท้องถิ่น กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการติดตั้งเครื่องกั้นถนนในบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางฯ ดังกล่าว โดยได้ขอรับงบประมาณจากกรมการขนส่งทางบก ภายใต้กองทุนเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน (กปถ.) และขออนุญาตให้เป็นทางผ่านที่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากกระทรวงมหาดไทยอยู่
นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ จำนวน 2,633 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีจุดตัดเสมอระดับทางฯ ที่เป็นทางลักผ่าน 620 แห่ง และเป็นทางลักผ่านที่ใช้งานอยู่ 541 แห่ง โดย รฟท. มีนโยบายปิดจุดตัดเสมอระดับทางฯ ทั้งหมด โดยได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นสะพานหรือทางลอดทดแทน ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพและช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถปิดจุดตัดเสมอระดับทางฯ ลงได้อีก 332 แห่ง และแก้ปัญหาทางลักผ่านให้ลดลงได้ 60 แห่ง
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการขยายเพิ่มเติมไปในส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อีก 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,488 กม. ขณะเดียวกัน รฟท. ได้รณรงค์ส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบจราจรแก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาผ่านจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง โดยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 62 ระบุว่า ขอให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่ารถไฟผ่านไปแล้วและมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้
ขณะเดียวกันมาตรา 63 ยังระบุว่า ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้ขับรถผ่านไปได้ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังขณะขับขี่ยานพาหนะผ่านจุดตัดเสมอระดับทางฯ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงไม่ลักลอบเปิดจุดตัดรถไฟเป็นทางลักผ่านเพิ่มขึ้นมาเอง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอย่างยั่งยืนต่อไป
