ทั้งนี้ เยาวชนที่ถูกชวนร่วมแก๊งกับเหตุปล้นร้านทองเหตุดังกล่าว…เป็นเยาวชนกลุ่มเปราะบาง มีปัญหาทางครอบครัว ซึ่งส่วนหนึ่งกลายเป็น “คนส่งยาเสพติด” ไปแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อ “โจรโจ๋ ที่ว่านี้ร่วมปล้นร้านทอง…ก็ “ไม่รอดถูกจับกุม” เพราะขนาด “โจรเก๋า” ที่ก่อคดีอื่น ๆ มาก่อนก็ “จบเห่เป็นแถว”…

“ปล้นร้านทอง” แม้มีเหตุเกิดบ่อย…

แต่… “ปล้นแล้วก็ไม่รอดถูกจับกุม!!”

แม้หนีได้ตอนแรก… “ที่สุดก็เข้าคุก!!”

ทั้งนี้ “เหตุอาชญากรรมปล้นร้านทอง” นั้น จากข่าวคราวก็ดูจะเป็น “อาชญากรรมที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ” อย่างช่วงปลายปี 2566 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2567 นี้ก็มีเหตุเกิดและเป็นข่าวอยู่เนือง ๆ ซึ่งถ้าไม่ได้ติดตามข่าวอย่างละเอียด หรือไม่ได้ติดตามต่อเนื่อง หรือสื่ออาจจะนำเสนอตอนที่เกิดเหตุ…แต่ไม่ได้ติดตามนำเสนอต่อเนื่อง หลาย ๆ คนก็อาจคิดแค่ว่าโจรปล้นร้านทองในไทยนับวันยิ่งร้าย แต่จริง ๆ แล้ว ธุรกิจร้านทอง…ทางตำรวจให้ความสนใจดูแลมาก ทีเดียว…ซึ่ง “ปล้นแล้วรอดยาก!!

และในฝ่ายของธุรกิจร้านทองเองนั้น…ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีแนวทางใด ๆ หรือยังไม่วิธีการใด ๆ ที่จะการันตีว่าสามารถป้องกันการเกิดเหตุปล้นร้านทองได้แบบชัวร์ ๆ 100% แต่ถึงกระนั้น…ก็มีคำแนะนำ “แนวทางเพื่อลดความเสี่ยง-บรรเทาเหตุร้าย” อย่างแนวทางที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะชวนดูกันวันนี้…เป็นข้อมูลจาก เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ ที่มีการแนะนำบรรดาร้านทองไว้ ผ่านบทความ “หลักป้องกันปล้นร้านทอง-ทำอย่างไรให้ร้านทองปลอดภัยห่างไกลจากการจี้ปล้น”

ทางตำรวจก็ให้ความสนใจดูร้านทอง

และร้านทองก็มีมาตรการดูแลตัวเอง

ข้อมูลจากแหล่งข้างต้น เกี่ยวกับมาตรการดูแลตัวเองของร้านทอง กับแนวทาง-กับหลัก…กรณี “ปล้นร้านทอง” นั้น โดยสังเขปมีดังนี้… ในบทความดังกล่าวมีคำแนะนำการปฏิบัติสำหรับร้านทองต่าง ๆ อาทิ…“ไม่จัดเรียงทองไว้มากเกินไป” เพราะจะเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจคนร้าย, “ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด” เช่น การกำหนดเวลาเปิด-ปิด และมาตรการอื่น ๆ ตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้มีการให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยเอาไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกคนร้ายบุกปล้นชิงทอง, “หลีกเลี่ยงการปะทะกับคนร้าย” กรณีที่ถูกโจรเข้าปล้นร้านทอง เพราะอาจจะนำมาซึ่งอันตราย

แต่ก็ใช่ว่าร้านทองจะไม่มีอาวุธ!!

คำแนะนำยังมีในส่วนการ “ฝึกจำลองเหตุการณ์” ซึ่งนอกจากเป็นการช่วยวางแผนเพื่อลดการสูญเสียแล้ว ยังเป็นการทำให้ มีสติ มีไหวพริบ หากต้องเผชิญเหตุอาชญากรรมปล้นร้านทอง …ซึ่งก็ “มีโจรไม่น้อยแล้วที่จบเห่” เพราะกรณีนี้

นอกจากนี้ ร้านทองยังมี “ป้ายคำเตือน” คำเตือนที่ว่านั้น อาทิ… ห้ามสวมหมวกกันน็อก ห้ามสวมหมวก ห้ามสวมแว่นตาดำ ที่แม้ไม่สามารถป้องกันโจรได้ แต่อย่างน้อยก็ป้องปราม หรือ ใช้จับสังเกต คนที่มีลักษณะผิดปกติจากคนทั่วไป

ลูกกรงเหล็ก” อุปกรณ์ชนิดนี้ก็คงจะคุ้นตาตามร้านทอง เพราะถือว่าจำเป็นจะต้องมี ถึงแม้จะทำให้ความสวยงามของร้านลดลง และก็มีคำแนะนำกันว่าควรปิดล็อกกลอนเอาไว้เสมอ ซึ่งก็ ช่วยเรื่องความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน

ขยับสเต็ปขึ้นอีก… “ระบบล็อกประตู” นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีการนำมาใช้งานตามร้านทอง ใช้เป็นเครื่องมือในการสกรีนคนร้าย หรือใช้เพื่อ สกัดกั้นการบุกเข้าร้าน รวมถึงใช้เพื่อ ถ่วงเวลาหนีของคนร้าย ทำให้หนีได้ไม่สะดวก

“ปุ่มสัญญาณเตือนเหตุร้าย” นี่ก็ตัวช่วยทำให้ “โจรปล้นร้านทองรอดยาก” ต่อให้ไม่มีตำรวจอยู่แถวร้าน ผู้ที่สัญจรหรืออยู่ในบริเวณนั้น ๆ ก็จะรับรู้ และแจ้งตำรวจ โดยร้านทองก็มักจะทำการติดตั้งสัญญาณเตือนไว้หลาย ๆ จุดของร้าน

ต่อไปคืออีกสิ่งที่ เป็น “พระเอก” ของคดีต่าง ๆ แล้วมากมาย รวมถึงคดี “ปล้นร้านทอง” นั่นก็คือ… “กล้องวงจรปิด” ที่คำแนะนำในแวดวงธุรกิจร้านทองนั้นจะมีการแนะนำให้ติดตั้งไว้ทั้งภายในร้าน รวมถึงภายนอกร้านด้วย และที่สำคัญคือให้มีการหมั่นตรวจสอบสม่ำเสมอด้วยว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันกรณีที่ว่า…แม้จะติดกล้องวงจรปิดไว้มาก แต่กลับมีฝุ่นจับที่เลนส์กล้อง จนทำให้ได้ภาพที่ไม่ชัดเจน หรืออาจจะมีนกบินมาชนหรือเกาะจนทำให้มุมกล้องเปลี่ยนไป

“กล้องวงจรปิด” นี่ช่วย “จับโจรได้อื้อ”

ทั้งนี้ กับข้อมูลคำแนะนำของทางตำรวจ ข้อมูลคำแนะนำที่มีอยู่ในเว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ ซึ่งได้แนะนำถึงบรรดาร้านทอง ดังที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้นำข้อมูลมาสะท้อนต่อในวันนี้ แม้ว่าจะถือเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนระดับปัญหาเหตุอาชญากรรม “ปล้นร้านทอง” ในเมืองไทยในยุคนี้ แต่ขณะเดียวกันก็บ่งชี้ถึงการที่ บรรดา “ธุรกิจร้านทองทั้งหลายมีการเตรียมพร้อมตั้งรับ” ภัยจากโจรปล้นร้านทอง …ซึ่งที่แจกแจงมาข้างต้นนั้นยังไม่นับรวมกรณีที่เจ้าของธุรกิจร้านทองจำนวนไม่น้อยมีอาวุธปืนและมีการฝึกใช้จนเชี่ยวชาญ โดยที่ผ่านมาก็มีกรณี “เจ้าของร้านทองยิงโจรเดี้ยง!!” อยู่เนือง ๆ เช่นกัน

ใครที่อาจ “กำลังคิดผิด ๆ รีบคิดใหม่”

“โดยเฉพาะเยาวชน” ที่อาจ “ถูกชวน”

“ลักวิ่งชิงปล้น” ไม่พ้น “จบเห่อนาถ!!”.