สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ว่าสืบเนื่องจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน บริเวณประตูทางเข้าด้านหนึ่งของท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ชานกรุงคาบูล และบริเวณโรงแรมบารอน ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินแห่งนี้ เมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
รถพยาบาลคันหนึ่งเร่งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุโจมตีที่ท่าอากาศยานนานาชาติคาบูล เข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน
กระทรวงสาธารณสุขของอัฟกานิสถานออกแถลงการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีทั้งสองจุด มีจำนวนรวมกันมากกว่า 60 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่น้อยกว่า 140 คน ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีทหารอเมริกันรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 13 นาย นับเป็นความสูญเสียมากที่สุดในคราวเดียวของกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ทหารถูกยิงตก เมื่อปี 2554 คร่าชีวิตทหารอเมริกัน 30 นาย
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงที่กรุงวอชิงตัน สั่งให้หน่วยงานทุกแห่งของสหรัฐ ลดธงชาติครึ่งเสาจนถึงวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อไว้อาลัยและเป็นเกียรติแก่ทหารอเมริกัน และพลเรือนอัฟกันซึ่งเสียชีวิตจากเหตุโจมตี "อันไร้เหตุผล" ที่สนามบินคาบูล ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า "จะไม่ลืมและจะไม่มีทางให้อภัยผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ" ต่อมามีรายงานว่า ไบเดนสั่งให้กระทรวงกลาโหมวางแผนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อกลุ่มไอเอส-โคราซาน ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในอัฟกานิสถาน พร้อมทั้งย้ำว่า "ไม่เปลี่ยนใจ" เรื่องกำหนดการถอนทหาร คือภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้
ด้าน พล.อ.เคนเนธ  แมคเคนซี ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของกองทัพสหรัฐ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยกระดับการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ต่อการโจมตีลักษณะนี้ที่อาจเกิดขึ้นอีก และยอมรับว่า จำนวนทหารอเมริกันที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ "อาจเพิ่มขึ้นอีก" เพราะยังมีทหารได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 18 นาย.

เครดิตภาพ : REUTERS