เมื่อวันที่ 10 พ.ย. พญ.สุขุมาลย์ สว่างวารี สูติแพทย์และแพทย์เฉพาะทางมะเร็งนรีเวชวิทยา และผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช รพ.เปาโล เปิดเผยว่า เชื้อเอชพีวี (HPV : Human Papilloma Virus) คือ เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ หูด หูดหงอนไก่ และพบได้มากในบุคคลทั่วไป ทั้งหญิงและชาย อีกทั้งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งองคชาต มะเร็งทวารหนัก รวมถึงมะเร็งในช่องปากและลำคอโดยเฉพาะมะเร็งที่คอ ฐานของลิ้น และ ทอนซิล

ซึ่งปัจจุบันพบสายพันธ์ของเชื้อเอชพีวี มากกว่า 100 สายพันธ์ โดยแต่ละสายพันธ์มีความสามารถในการก่อโรคที่แตกต่างกัน และการก่อโรคของเชื้อเอชพีซี ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ หรือบางรายอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี อาจเป็นสิบ ๆ ปีกว่าจะเริ่มแสดงอาการของโรคอย่างเช่น รอยโรคใต้เยื่อบุผิวปากมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถติดต่อได้

เชื้อเอชพีวีเป็นไวรัสที่สามารถติดต่อสู่บุคคลอื่น ๆ ได้ และสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาวะต่าง ๆ ได้แก่ สามารถล่องลอยอยู่ในอากาศได้ จากงานวิจัยบางรายงานพบว่า เชื้อเอชพีวีสามารถมีชีวิตรอดในสิ่งแวดล้อมทั่วไปภายนอกร่างกายมนุษย์ได้นานเป็นวันถึงเป็นสัปดาห์ และสามารถล่อยลอยฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศได้ โดยมีข้อมูลสนับสนุนจากงานวิจัยที่สามารถพบเชื้อไวรัสเอชพีวีฟุ้งกระจายในอากาศในห้องผ่าตัด ที่ทำการผ่าตัดรอยโรคปากมดลูกด้วยลวดไฟฟ้า นอกจากนี้การฟุ้งกระจายดังกล่าว สามารถพบเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ในหน้ากากอนามัยของแพทย์ผ่าตัด รวมไปถึงในช่องจมูกและทางเดินหายใจของแพทย์ผ่าตัดอีกด้วย

เชื้อเอชพีวีสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นหากมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับอุณหภูมิผิวหนังได้แก่ 30-40 องศาเซลเซียส ดังนั้นเชื้อไวรัสดังกล่าว ก็สามารถติดต่อสู่บุคคลอื่นได้ง่ายยิ่งขึ้นหากมีการสัมผัสโดนตำแหน่งของร่างกายที่มีเชื้อเอชพีวีอยู่ อย่างไรก็ตาม เชื้อเอชพีวีจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่อุณหภูมิสูงเกิน 60 องศาเซลเซียส และสามารถถูกฆ่าได้โดยน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ เช่น สบู่ แอลกอฮอล์ เป็นต้น

การป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพมาก ได้แก่ วัคซีนเอชพีวี ที่นำส่วนประกอบเปลือกของตัวไวรัสที่ไม่สามารถก่อโรคได้ แต่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี และวัคซีนเอชพีวีตัวใหม่ล่าสุดคือ วัคซีนเอชพีวี 9 สายพันธ์ุที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวีได้สูงถึง 9 สายพันธ์ ที่ป้องกันทั้งโรคมะเร็งและโรคหูดหงอนไก่ด้วย โดยแนะนำให้ฉีดในเพศหญิงและชายทุกคนที่มีอายุ 9-26 ปี โดยจะสามารถป้องกันโรคได้สูงสุดหากบุคคลนั้นไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน หรือ เริ่มฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก นอกจากนี้สตรีที่มีอายุมากกว่า 26 ปี และไม่เคยได้รับวัคซีนเอชพีวีมาก่อน ก็สามารถฉีดวัคซีนเอชพีวีได้ ตามงานวิจัยฉีดได้ถึงอายุ 45 ปี

การป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีในรูปแบบอื่น ๆ ได้แก่ การลดการมีเพศสัมพันธ์กลุ่มเสี่ยง การสวมถุงยางอนามัยสามารถลดการติดเชื้อได้เพียงบางส่วน เนื่องจากยังมีตำแหน่งผิวหนังบริเวณอื่นที่อยู่นอกถุงยางอนามัยก็สามารถเป็นจุดในการติดต่อเชื้อเอชพีวีได้ นอกจากนี้ การเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน การงดสูบบุหรี่ การหลีกเลี่ยงการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เลี่ยงสารเสพติด การป้องกันตัวเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ งดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสม่ำเสมอ ก็สามารถลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกที่เป็นมะเร็งที่มีสาเหตุหลักจากการติดเชื้อเอชพีวี การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง การทานอาหารและรับสารอาหารครบหมู่ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ก็จะทำให้ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ดีขึ้นและลดโอกาสการติดเชื้อ และการเกิดโรคต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับเอชพีวีได้อีกด้วย.