สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ออสเตรเลียเตรียมได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เพิ่มอีก 1 ล้านโด๊ส ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลโปแลนด์ และเป็นข้อตกลงจัดซื้อเป็นกรณีพิเศษ"
ทั้งนี้ ทันทีที่ได้รับวัคซีนจำนวนดังกล่าว มากกว่าครึ่งหนึ่งจะถูกส่งไปยังรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีอัตราการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สูงสุดในประเทศ ณ เวลานี้ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นจะระดมฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมายซึ่งมีอายุระหว่าง 20-39 ปี โดยเร็วที่สุด
การสั่งซื้อวัคซีนไฟเซฮร์/ไบโอเอ็นเทค ครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนักจากทุกด้าน ที่ถาโถมเข้าใส่ผู้นำออสเตรเลีย ว่าบริหารจัดการวัคซีนล่าช้าและ "ผิดพลาด" โดยนับตั้งแต่เริ่มการฉีดวัคซีนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีประชากรอายุมากกว่า 16 ปี เพียง 24% เท่านั้น ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในพื้นที่อย่างน้อย 13,314 คน เพิ่มขึ้น 417 คนในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด และในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพียง 2 คน ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตสะสมในพื้นที่อยู่ที่อย่างน้อย 104 ราย และยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 381 คน.
เครดิตภาพ : REUTERS