เคยทราบกันบ้างหรือไม่ว่า.. ทุกวันที่ 23 กรกฎาคมของทุกปี “วันฮอตดอก” (Hot Dog Day) หรือวันฮอตดอกแห่งชาติ (National Hot Dog Day) ริเริ่มขึ้นโดยสภาฮอทดอกและไส้กรอกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา โดยจะมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายในเมืองลุงแซม อาทิ การแข่งขันสุนัขพันธุ์ดัชชุน หรือที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อ “สุนัขไส้กรอก” การแข่งดื่มรูทเบียร์ และการแต่งใบหน้าด้วยสีสันและลวดลายต่างๆ เป็นต้น

สำหรับ ไส้กรอก หรือ “ไส้ของฮอตดอก” นั้น เป็นอาหารว่างที่มีกำเนิดมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยอณาจักรบาบิโลเนีย (Babylonia Kingdoms) หรือเมื่อกว่า 3,500 ปีมาแล้ว โดยมีการอ้างว่า ต้นกำเนิดนั้นมาจากชาวโรมันที่นำเครื่องเทศมายัดใส่ในไส้ของสัตว์แล้วชาวโรมันเขาก็เรียกว่า “Salsus” ซึ่งก็เชื่อกันว่า คำนี้เป็นรากศัพท์ของคำว่ “Sausage” ที่แปลว่าไส้กรอก

ในเวลาต่อมาก็มีการพัฒนาไส้กรอกไปในหลายรูปแบบ และมีรสชาติแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่ไส้กรอกที่ถือว่าขึ้นชื่อที่สุดนั้นเป็น “ไส้กรอกจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี” ซึ่งจะมีลักษณะเป็นไส้กรอกรมควันเนื้อแน่นหอม รูปร่างโค้งเว้าน้อยๆ ที่มองดูแล้วคล้ายกับสุนัขพันธุ์ดัชชุน จนบางคนเผลอเรียกเจ้าไส้กรอกชนิดนี้ว่า “ไส้กรอกดัชชุน” และความอร่อยของไส้กรอกแฟรงก์ ก็กระจายไปทั่วยุโรป ไปจนถึงทวีปอเมริกา

จนเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1901 ในสนามเบสบอลแห่งหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก ที่กำลังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด นายทาร์ด ดอร์แกน (Tad Dorgan) นักวาดการ์ตูนกีฬาที่ได้นั่งชมการแข่งขันอยู่ด้วย ก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งเดินเร่ขายของว่างหน้าตาน่ากิน แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องสะดุดไม่ใช่หน้าตาของอาหารว่างที่เขานำมาขาย แต่กลับเป็นประโยคคำพูดในขณะที่เดินเร่ขาย ซึ่งมีความหมายประมาณว่า “รีบซื้อไส้กรอกดัชชุนร้อน ๆ กันเร็ว” หลังจากได้ยินดังนั้น เขาก็รีบวาดรูปชายคนที่ขายอาหารว่างพร้อมกับถาดใส่ฮอตดอก แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่า จะสะกดคำว่าดัชชุนอย่างไร เขาเลยถือวิสาสะตั้งชื่อขนมปังประกบไส้กรอกยาว ๆ ใหม่ว่า “ฮอตดอก” หรือหมาร้อนๆ ที่เราเรียกกันมาถึงปัจจุบันนั่นเอง….