สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ว่า เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาอินโดนีเซียเผชิญกับการแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด-19โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนล้นโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตก็มากขึ้นด้วย แต่นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่าคลื่นการแพร่ระบาดข้ามจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเริ่มลดลง แต่รัฐบาลอินโดนีเซียยังคงใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้นด้วยการห้ามเดินทางเคลื่อนย้าย มาตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาและยังประกาศมาตรการระดับ 4ในพื้นที่เช่น เกาะชวาและบาหลี รวมทั้งในบางเมืองด้วย แต่สำหรับในเมืองหลวงกรุงจาการ์ตายังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีการประกาศผ่อนปรนมาตรการหรือไม่ ซึ่งประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซียกล่าวว่า เรายังจะต้องตื่นตัวและเฝ้าระวังต่อไปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
นายลูฮุต ปันจัยตัน รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบมาตรการควบคุมโรค กล่าวว่า รัฐบาลกำลังตั้งเป้าที่จะเปิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ได้อีกครั้งในเดือนก.ย.นี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการจัดฉีดวัคซีนด้วย รวมถึงปรับปรุงระบบการตรวจคัดกรอง ติดตามและรักษา


อินโดนีเซียเริ่มการฉีดวัคซีนแห่งชาติมาตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่เป้าหมายก็ยังไม่เป็นไปตามกำหนด เพราะการจัดสรรวัคซีน ทำให้ขณะนี้ อินโดนีเซียมีผู้ได้รับวัคซีนครบสองเข็มไม่ถึง10% ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย แต่รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า อินโดนีเซียจะได้รับวัคซีน 258 ล้านโด๊สตั้งแต่เดือนส.ค.นี้ไปจนถึงเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้หากได้เพิ่มอีก 72 ล้านโด๊สก็จะเพียงพอกับเป้าหมายของการฉีดวัคซีนเดือนละ 70ล้านโด๊สในเดือนส.ค.ถึงก.ย.
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3.46 ล้านรายและเสียชีวิต 97,000 ศพ
เครดิตภาพREUTERS