“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะพบ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ในนัดที่ 2 ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบแรก กลุ่ม C ที่บุนยอดกอร์ สเตเดี้ยม กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ในวันที่ 5 มิ.ย. เวลาไทย 22.00 น. ถ่ายทอดสด True ID และ Eleven Sports
ผลงานนัดแรก ไทย ไล่เสมอ เวียดนาม 2-2 มี 1 แต้ม ส่วน มาเลเซีย แพ้ “แชมป์เก่า” เกาหลีใต้ ยับ 1-4 สถานการณ์ทีมไทย ต้องชนะเพื่อไปลุ้นต่อนัดสุดท้ายกับ เกาหลีใต้ ส่วน มาเลเซีย แพ้ไม่ได้แล้ว คู่นี้ตอนรอบคัดเลือก ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน เสมอ 0-0 และมาเจอในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 รอบแรก มาเลเซีย แซงชนะ 2-1
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำทีมลงฝึกซ้อมที่ควิเบรย์ สเตเดี้ยม ใช้เวลาราว 1.30 ชั่วโมง เพื่อทบทวนแทคติกและเน้นเรื่องการเข้าทำเกมรุก โดย โค้ชโย่ง กล่าวว่า มาเลเซียมีทีมเวิร์กดีมาก อันตรายกว่านักเตะรายบุคคลเยอะ ถึงแม้นัดแรกแพ้ เกาหลีใต้ ขาดก็ตาม แต่แสดงให้เห็นถึงความกล้าเล่น มีจังหวะบุกขึ้นไปลุ้นทำประตูได้ด้วย
“สิ่งสำคัญสำหรับทีมไทยคือจะต้องแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองโดยเฉพาะเกมรับ และเพิ่มวิธีการเข้าทำในเกมรุก ซึ่งทีมชุดนี้ เพิ่งได้ซ้อมเต็มทีมก่อนเตะนัดแรกแค่วันเดียว จึงทำให้การเข้าทำเกมรุกยังไม่ค่อยเข้าใจนัก”
ส่วนการกลับมาเจอกันหน 3 ในรอบ 9 เดือน โค้ชโย่ง กล่าวว่า ฟุตบอลแต่ละนัดมีปัจจัยต่างกันออกไป ครั้งรอบคัดเลือกที่มองโกเลีย ไทยมีปัญหาหลายด้าน ครั้งนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่า จะทำได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา มาเลเซียเองก็เจาะไทยไม่ได้เยอะนัก เชื่อว่าทุกทีมกดดันเหมือนกันหมด ซึ่งไทยเองก็แสดงให้เห็นจิตใจแข็งแกร่ง ที่ตาม เวียดนาม 2 ครั้ง และเสมอได้
ด้าน อัลมัจ มูไครี กัปตันทีมชาติมาเลเซีย กล่าวว่า การเจอกับไทยถ้าทำได้ดีจะเพิ่มกำลังใจให้ทีม อยากให้ลืมความพ่ายแพ้ในเกมกับเกาหลีใต้และมีสมาธิกับเกมนี้ หวังว่าจะคว้า 3 แต้ม เพื่อลุ้นเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
สำหรับผู้เล่นของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู นพพล ละครพล, เซ็นเตอร์ โจนาธาร เข็มดี, วันชาติ ชูสงค์, แบ๊กขวา นิโคลัส มิคเกลสัน, แบ๊กซ้าย ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, กองกลาง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, กฤษดา กาแมน (กัปตันทีม), ตัวรุก เบนจามิน เจมส์ เดวิส, ริมเส้นขวา เอกนิษฐ์ ปัญญา, ซ้าย กรวิชญ์ ทะสา, กองหน้า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา