เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เวลา 11.30 น. นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวผ่านไลฟ์สดทางเพจ “กระทรวงสาธารณสุข” เรื่องการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา ว่า ปัจจุบันมีจำนวนประชากรในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมาณ 8 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ 2.41 ล้านคน ล่าสุดพบว่า มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว 504,241 ราย พบมีการติดเชื้อ 31,175 ราย เป็นกลุ่มอาการสีเขียว 70.37% สีเหลือง 21.93% และสีแดง 7.7% อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการระบาดโควิด-19 จำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพฯ อัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 10% สธ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดระบบนำส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา
นพ.ธงชัย กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องการกลับไปรักษาตัวที่บ้านสามารถโทรฯ ไปที่สายด่วน 1330 กด 15 หรือกรอกข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นว่าจะเดินทางไปยังพื้นที่ใด หลังจากนั้น สปสช. จะส่งข้อมูลมาที่ สธ.เพื่อประสานปลายทางว่าจะมีผู้ป่วยเป็นใคร อาการอย่างไร ถึงวันที่เท่าไหร่ จึงขอให้เตรียมสถานพยาบาลรองรับ ระหว่างนี้ก็ประสาน สพฉ.เพื่อจัดพาหนะในการนำส่ง ทั้งนี้หลังการประสานคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 3-4 วัน ถึงปลายทาง อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางจะต้องประเมินอาการก่อน หากอาการหนักก็จะส่งรักษาในสถานพยาบาลใน กทม. ทั้งนี้แต่ระหว่างรอการนำส่งต้องปฏิบัติตัวเองไม่ให้มีการแพร่ระบาดต่อ หากอาการหนักขึ้นสามารถประสานที่ 1330 และ 1668 ได้ จะมีการประเมินอาการก่อนเดินทาง หากสีแดง ไม่สามารถเดินทางได้ แต่จะประสานหา รพ.เพื่อรับการรักษาใน กทม.
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียวเราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บเตียงเอาไว้ให้ผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลืองกับสีแดง สำหรับการดูแลผู้ป่วยสีเขียวจะมีนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาดูแลทั้งระบบ Home isolation ระบบ community isolation รวมถึงการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา โดยสามารถลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th/ จะมี QR Code ก็จะมีการกรอกข้อมูลสั้นๆ ชื่อนาม สกุล หมายเลขบัตรประชาชน พื้นที่ปลายทาง วันที่พร้อมเดินทาง หากไม่สะดวกใช้ช่องทาง Social Media สามารถโทรฯ สายด่วน 1330 กด 15 จะมีเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์และคอยบันทึกข้อมูลรายละเอียดจะเหมือนกับที่สแกน QR Code
“ช่วงนี้สายด่วน สปสช. 1330 จะมีประชาชนเข้ามาสอบถามจำนวนมากอาจจะต้องรอสาย ปัจจุบันมี 1,600 คู่สาย กำลังจะเพิ่มอีก 500 คู่สาย และจะประสานไปยัง กสทช. งดเว้นค่าบริการโทรฯ สายด่วน 1330 อย่างไรก็ตาม หากท่านใดสามารถกรอกข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียก็จะสะดวกมากขึ้น กรอกมาวันนี้ พรุ่งนี้เวลา 08.00 น. จะส่งข้อมูลมาไปที่ สธ.ทันที และขณะนี้ทาง รพ.ได้มีการออกแนวทางสำหรับการส่งต่ออย่างปลอดภัยด้วย” ทพ.อรรถพร กล่าว
ด้าน นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) กล่าวว่า การนำส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาจะต้องเป็นกลุ่มอาการสีเขียว โดยรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดพาหนะ ทั้งรถไฟ รถตู้ บขส. เครื่องบิน จะมีทีมแพทย์ประกบตลอด ทั้งนี้เมื่อไหร่รับการประสานจาก สธ.แล้วจะมีการจัดพาหนะรับ 3 ช่วงคือ ช่วงแรกรถรับจากที่บ้านมายังสถานที่รถไฟ หรือบ ขส. หรือเครื่องบิน ขึ้นอยู่กับว่าจะเดินทางไปภูมิลำเนาอย่างไร เมื่อถึงปลายทาง ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือ รพ.จะมีรถมารับช่วงต่อเพื่อนำไปส่งยัง รพ. หรือ รพ.สนาม หรือสถานที่กักตัวในพื้นที่ต่างๆ ขอย้ำว่า การนำส่งตรงนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
“ตอนนี้สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ สิ่งที่ต้องย้ำคือวันนี้หากท่านอยู่ที่บ้าน ปฏิบัติตัวตามมาตรการควบคุมโรค คือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และเชื้อรุ่นปัจจุบันระบาดได้ง่าย การอยู่ในครอบครัวเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสโรคได้ โดยเฉพาะเมื่อมีใครสักคนที่ต้องออกไปนอกบ้านก็จะถือว่าเป็นความเสี่ยงแล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ เพราะถ้าคนในครอบครัวติด 1 คน มีโอกาสที่จะติดสู่คนที่ 2, 3, 4 ก็ตามมา ดังนั้น การใส่หน้ากากในบ้านแม้จะดูเหมือนไม่ปกติ แต่ต้องย้ำว่ามีความสำคัญ” นพ.อัจฉริยะ กล่าว.