เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช  กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกมาตัดพ้อในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า “ถ้าท่านจะออกจากผมก็แล้วแต่ ผมก็จะทำงานของผมต่อไป ผมไม่ทิ้งคุณ พวกคุณจะทิ้งผมก็ตามใจ” นั้นว่า การที่ระดับนายกรัฐมนตรีออกมาพูดในที่ประชุม ครม.แบบนี้เชื่อว่าน่าจะมีข้อมูล หรือมีสัญญาณอะไรบ้างอย่างหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าบริบทบ้านเมืองในยามวิกฤติครั้งนี้ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะจะเอาวิกฤติผู้ติดเชื้อที่ตอนนี้มีจำนวนสูงขึ้นรายวันแล้วจะมาลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น สปิริตในสถานการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ถ้าสถานการณ์ปกติ ไม่มีโควิดก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติและไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นสปิริตความร่วมมือร่วมแรง ทุ่มเทเสียสละ และความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ สำหรับตนนั้นมองว่ารัฐบาลจะต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ถ้าเป็นตนจะไม่นำวิกฤติโควิด-19 มาเล่นในแง่ทางการเมือง รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลควรช่วยกันทำงาน ต้องพูดคุยหารือร่วมกัน เพื่อหาข้อเสนอแนะให้กับคณะทำงานเพื่อเดินหน้าช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่มีอยู่ในขณะนี้

“หากพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวตอนนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าอับอาย เพราะถือว่าหนีความรับผิดชอบ ส่วนที่มี ส.ส.ระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทย ออกมาปะทะคารมกันต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมานั้น ผมมองว่าการวิวาทะระหว่างนักการเมืองกับนักการเมืองเป็นเรื่องปกติ และเป็นความคิดเห็นแบบปัจเจกบุคคลที่อาจมีอารมณ์หงุดหงิดบ้าง และมีความคิดเห็นต่างทางการเมือง เพราะขนาดคนในพรรคเดียวกันยังมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน แต่ผู้บริหารระหว่างพรรคไม่ได้มีปัญหา และพรรคไม่ควรเอาอารมณ์ของสมาชิกพรรค เพียงไม่กี่คนมาตัดสินใจเป็นมติพรรคแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่ใช่ความชอบธรรมของพรรค เนื่องจากยังมี ส.ส.อีกหลายคนที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น เขาอาจจะคิดตรงข้ามก็ได้ แต่เขาไม่พูด จึงไม่ควรเอาเหตุนี้มาเป็นเรื่องของพรรค เพราะคำว่าพรรคคือสถาบันทางการเมืองที่มีวุฒิภาวะสูง” นายรงค์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลตัดสินใจลาออกถอนตัวจริง จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเสียงข้างน้อยมีปัญหาหรือไม่ นายรงค์ กล่าวว่า แน่นอนว่าจะทำให้การทำงานของรัฐบาลยากขึ้น เพราะการทำงานของรัฐบาลและสภาฯต้องใช้เสียงข้างมาก หากมีใครออกไปก็ต้องแบบออกแรง เพิ่มสมาธิ และใช้สติปัญญามากกว่าเดิม เมื่อถามย้ำว่า ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ จะทำอย่างไร นายรงค์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพรรคไม่น่าจะเอาอารมณ์ของปัจเจกบุคคลมาตัดสินใจ.