นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นกว่า 80,000-90,000 ล้านบาท หลังจากโควิด-19 ในไทยกระทบต่อเศรษฐกิจมาก และทำให้ประชาชน นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ยิ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับจีดีพีลงเหลือ 1% ในปี 64 ส่งผลให้ต่างชาติมองว่าเป็นตัวกดดันความสามารถทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งเงินดอลลาร์แข็งค่า ทำให้เงินบาทอ่อนค่าแล้ว 8.8% อ่อนมากที่สุดในเอเชีย แต่เชื่อว่าเงินบาทจะกลับมาฟื้นได้คาดสิ้นปี 64 จะอยู่ที่ 30.5 บาทต่อดอลลาร์ จากมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ชะลอการติดเชื้อ สร้างบรรยากาศกลับมาดีขึ้น

“ค่าเงินบาทใน 1 เดือนที่ผ่านมา เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับเงินภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะค่าเงินฟิลิปปินส์อ่อนคล้ายกับไทย จากโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่รุนแรง และฟิลิปปินส์พึ่งพาการท่องเที่ยวเหมือนไทย ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาก เพราะดอลาร์แข็ง และถ้าจีดีพีไทย 1% จะกดดันความสามารถทำกำไร ต่างชาติอาจเทขาย ทั้งหมดคงฝากความหวังที่วัคซีน”

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลต่างประเทศ พบว่าต่างชาติมองไทยจะอยู่รั้งท้ายที่จะฟื้นเศรษฐกิจ เพราะติดขัดปัญหาการจัดการการติดเชื้อ เรื่องฉีดวัคซีน และการเคลื่อนย้ายคน โดยอยู่อันดับ 118 จาก 120 ประเทศ จึงได้แนะการตรวจโควิด การฉีดวัคซีน และการเคลื่อนย้ายคนทำได้อย่างไรบ้าง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ต่าง ๆ ทั่วโลก คาดเศรษฐกิจในเอเชีย จีน ขยายตัวเร็วที่สุด และไทยขยายตัวได้ต่ำที่สุด