เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวพร้อมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเข้าไปนอนในโลงศพ และเรียกร้องให้ปลด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกจากตำแหน่ง เพราะคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.ไม่ได้นั้น  โดยนายศุภชัย ได้โพสต์รูปภาพเอกสารคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2564 เรื่อง จัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 5 พ.ค.2564 และรูปภาพนายสิระ ที่นอนในโลงศพ โดยเนื้อหาระบุว่า

“วันนี้เห็นข่าว ส.ส.กทม. นายสิระ ลงโลงซ้อมตาย กล่าวหาว่าเพราะระบบสาธารณสุขล้มเหลว มีการกล่าวพาดพิงถึงผมถึงคุณหมอในกระทรวงสาธารณสุข ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก ผมไม่ถือสาหาความกับคนพรรค์นี้ แต่ผมจะขอพูดสิ่งที่อึดอัดขัดข้องใจ คือ เรื่องการบริหารจัดการโควิด-19 ในกทม. ที่เละเทะอยู่ในวันนี้ เพราะเรื่องการบริหารจัดการในพื้นที่ กทม.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง ตามคำสั่งที่ 6/2564 เรื่องจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งคำสั่งนี้มีท่านนายกฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์เอง มีเลขาฯ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. และปลัดกระทรวงหลายกระทรวง เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ มีอธิบดีจากสาธารณสุขมาเป็นกรรมการ และแน่นอนไม่มีรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขอยู่ในคณะนี้ ซึ่งกรณีเช่นนี้คนสาธารณสุขจะคิดเห็นกันอย่างไรไม่ทราบ แต่ก็ก้มหน้าทำด้วยจิตวิญญาณของแพทย์ และคนสาธารณสุข 

นายศุภชัย ระบุด้วยว่า และเมื่อดูหน้าที่ และอำนาจคณะกรรมการ 3 ข้อ จะเห็นว่าครอบจักรวาลทั่วฟ้า กทม. กทม.ที่อยู่ใต้อำนาจนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. และหัวหน้าศูนย์ควบคุมโควิด-19 กทม. และปริมณฑล แต่ทำงานไม่ได้ ล้มเหลว จนประชาชนตายคาบ้านอย่างที่เห็น และคนถูกด่าคือกระทรวงสาธารณสุข ด่านายอนุทิน ทั้งที่ไม่มีหน้าที่ไม่มีอำนาจตามคำสั่งนั้น เวลานี้หนักที่สุดคือ กทม. ซึ่งไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข แต่เป็นผู้ว่าฯ กทม. คน กทม. ตายมากที่สุด ติดเชื้อมากที่สุดเพราะใคร แต่คงจะเปล่าประโยชน์ที่จะพูดว่า เพราะคณะกรรมการชุดนี้ ที่มีนายกฯ เป็น ผอ.ศูนย์  มีผู้ว่าฯ กทม. เป็นรอง ผอ. แต่เป็นคณะที่ไม่มีคนดูแลระบบสาธารณสุขของประเทศเป็นกรรมการ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่นายกฯ กับ ศบค. และ กทม. ตัดกระทรวงสาธารณสุขออกจากการแก้ปัญหาโควิด-19 ในกทม. แน่นอนว่าการแก้ปัญหาในรายละเอียดไม่ควรจะเป็นหน้าที่ของนายกฯ แต่ควรเป็นเรื่องของ ผู้ว่าฯ กทม. แต่ถามว่าวันนี้ ผู้ว่าฯ กทม.หายไปไหน แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีหรือไม่ หรือเดินตามหลังสถานการณ์อยู่กี่ก้าว รู้หรือไม่ กทม.มีโรงพยาบาลของตัวเอง ทำไมปล่อยให้คนไปนอนรอหน้าวัดพระศรีฯ แบบน่าอนาจใจ

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข พยายามคุมเชื้อเต็มที่ แต่วันหนึ่งนโยบาย ศบค. ซึ่งรับผิดชอบโดย เลขาฯ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ไล่คนกลับไปต่างจังหวัดด้วยการปิดแคมป์คนงาน ปิดร้านอาหาร คนจนจากชนบทที่มาหากินในเมืองต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เอาเชื้อไปติดจน รพ.ต่างจังหวัดรับไม่ทัน รับไม่ไหว เชื้อกระจายทั่วประเทศคุมไม่ได้ ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ฉีด คนแก่ คนป่วยก่อน แต่ กทม.เอาไปฉีดให้คนไม่แก่ ไม่ป่วย รัฐบาลเอาไปฉีดแรงงานในระบบประกันสังคม ผลคือ คนแก่ คนป่วย ตายเยอะมาก เพราะอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีคนเอาเชื้อมาให้ แบบพ่อแม่พี่เป็ด เชิญยิ้ม คนตรังบ้านผม ซึ่งน่าเศร้ามาก หรือเพราะคิดแต่จะเล่นการเมือง หาเสียงกับโควิด-19 และวัคซีน แต่สุดท้ายเอาไม่อยู่ ทำให้ กทม.เป็นรังของโรค เป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย อ่านราชกิจจาที่ออกมาเรื่องล็อกดาวน์ วันนี้เขียนชัดว่าต้นเหตุ คือ กทม. และปริมณฑล ที่ควบคุมโรคไม่ได้จนเกิดการระบาดหนัก และกระจายไปทั่วประเทศ วันนี้ต้องเรียกร้องต่อผู้บริหาร กทม. ทำไมปล่อยให้คนป่วยตายคาบ้าน รอจนตาย ไม่ไปรับตัว กทม. เละทุกวันนี้ ก็เพราะผู้บริหาร กทม. กีดกัน สกัดกั้น ไม่ให้กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปทำงานในพื้นที่ กทม.

นายศุภชัย ระบุด้วยว่า เวลานี้กระทรวงสาธารณสุขกำกับดูแล 76 จังหวัด จะเห็นว่าสามารถจัดการได้ดี เพราะคนสาธารณสุขทุ่มเทหัวใจทำงานอย่างมืออาชีพ เพราะรู้งานเข้าใจงาน การจัดการเรื่องสาธารณสุข ไม่ต้องใช้อำนาจ แต่ต้องใช้สมอง และหัวใจ ต้องได้รับความร่วมมือ ความไว้วางใจจากประชาชน ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือก็พัง สิ่งที่ประชาชนอาจไม่รู้ คือ กระทรวงสาธารณสุข ไม่อาจนิ่งดูดายเห็นความยากลำบากของพี่น้องประชาชนได้ สุดท้ายก็ต้องตั้ง รพ.สนามชื่อว่า บุษราคัม ขนาด 4,000 เตียง เพื่อช่วย กทม.ของผู้ว่าฯ อัศวิน ช่วยคน กทม. แต่ต้องมาตั้งที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในการแก้ปัญหาโควิด-19 ใน กทม.

“และอยากบอกคน กทม. ว่าท่านควรรู้ว่าหากอยากด่านายอนุทินก็ด่าไป แต่การด่านายอนุทิน เป็นการด่าผิดคน ยิงผิดตัว เพราะนายอนุทิน ถูกตัดออกจากการทำงาน การแก้ปัญหาใน กทม. ไปตั้งแต่ต้นแล้ว เปล่าประโยชน์ที่ ส.ส.ชื่อสิระ จะซ้อมลงโลง แสร้งตาย แล้วแถลงข้อมูลผิดๆ บิดเบือนตามสติปัญญาที่มี ส.ส.ไปถามผู้ว่า กทม.เถิดว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างไร ก่อนเชื้อจะลามมาติดเข้าจริงๆ แล้วอาจตายจริงแล้วเอาไปเผาจริง ต้องเลือกตั้งซ่อมกันอีก คนจะบ่นเสียดาย ส.ส.คนดีว่าไม่น่าตายเล้ย??” นายศุภชัย ระบุ.