เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการเเรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีหนังสือของกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เรื่อง แจ้งยกเลิกโครงการให้ความช่วยเหลือคนต่างด้าวด้านสาธารณสุข ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า วันนี้วิกฤติโควิดอาจจะน่ากลัวน้อยกว่าวิกฤติปัญญาความสามารถในการจัดการเพื่อควบคุมโรคของรัฐบาลแล้ว รัฐมีนโยบายเลือกปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติอย่างชัดเจน ไล่เรียงมาตั้งแต่นโยบายการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบการโควิดด้วยการเยียวยาตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม ที่ไม่รวมแรงงานข้ามชาติในระบบประกันสังคม กีดกันไม่ให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยการจำกัดให้การตรวจหาเชื้อสามารถตรวจได้เฉพาะแรงงานที่มีเอกสารเท่านั้น ทั้งที่รัฐทราบดีว่า โควิดไม่เลือกที่รักมักที่ชัง จะชาติไหน มีบัตรหรือไม่ก็มีโอกาสติดโควิดเหมือนกัน และถ้าแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะมีเอกสารหรือไม่มีเอกสารไม่ปลอดภัย พวกเราทุกคนก็ไม่มีทางปลอดภัย
“ล่าสุดออกคำสั่งนิวโลว์ขั้นสุดอีกตามหนังสือฉบับนี้ คือยกเลิกการตรวจหาเชื้อในแรงงานข้ามชาติที่มีเอกสารประจำตัวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอีก คำสั่งเช่นนี้คือ ใบอนุญาตปล่อยให้คนตายใช่หรือไม่ และนี่ไม่ใช่การปกป้องแรงงานข้ามชาติแต่เป็นการเรียกร้องเพื่อให้รัฐบาลอยู่รอดจากการบริหารที่ล้มเหลว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลต้องหยุดดำเนินนโยบายด้วยการเลือกคุ้มครองหรือปกป้องใคร แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญให้กลุ่มเสี่ยงทุกกลุ่มเข้าถึงการตรวจหาเชื้อและได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อลดความร้ายแรงของการแพร่ระบาดโดยไม่เลือกปฏิบัติเหมือนที่โควิดไม่เลือกที่จะติดหรือไม่ติดใคร และรัฐบาลต้องหยุดสั่งการเฉพาะเรื่องคนต่างด้าว เพราะมันเป็นคำสั่งที่ชี้หน้ารัฐเองว่าเป็นคนล้มเหลวในการจัดการโรคระบาดและความล้าหลังของรัฐที่ไม่สามารถก้าวข้ามการไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุทางเชื้อชาติได้
ทั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานฯ จะเร่งดำเนินทำหนังสือไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทบทวนคำสั่งอย่างเร่งด่วน เเละชี้เเจงต่อคณะกรรมาธิการฯ เเละประชาชนว่ารัฐบาลจะต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ผลักภาระให้ประชาชน
ด้าน น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่ รมว.แรงงาน มีคำสั่งยกเลิกมาตรการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขแก่แรงงานข้ามชาติ นอกจากเป็นการไร้มนุษยธรรม ไม่สมกับเป็นเจ้ากระทรวงแรงงานแล้ว ยังเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด และอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่บานปลายมากขึ้น และต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยแรงงานข้ามชาติ ที่สร้างเมือง สร้างความเจริญ และสร้างรายได้ให้กับประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยทำกับคนงานเหล่านี้ คือทำเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ตั้งแต่วิกฤตโิรคระบาดโควิด-19 เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ระลอกแรก แรงงานข้ามชาติเป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยได้รับการเยียวยา และต่อให้อยู่ในระบบประกันสังคม ก็ไม่ได้รับการเยียวยาเช่นกันเหตุเพราะไม่มีสัญชาติไทย หากท่านให้สัมภาษณ์ออกสื่อข่าวว่า ไม่มีหน้าที่ในการควบคุมโรค แล้วแรงงานจะต้องพึ่งใคร รมว.แรงงาน ไม่ช่วยแรงงาน แล้วยังจำเป็นต้องมี รมว.แรงงาน อยู่หรือไม่
“ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะ รมว.แรงงาน ให้ทบทวนและยกเลิกคำสั่งนี้โดยเร็วที่สุด ในช่วงที่แรงงานทุกคนยากลำบาก เจ้ากระทรวงแรงงานควรเป็นที่พึ่งของพวกเขา ไม่ใช่ทำตัวเป็นหอกทิ่มแทงซ้ำเติมแรงงานไปอีก การที่จะระงับโรคระบาดนี้ได้คือการปูพรม ตรวจรักษาทุกคน ไม่ว่าสัญชาติใดโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพราะโรคโควิด-19 ก็ไม่เคยเลือกสัญชาติเช่นกัน และถ้ายังไม่ยับยั้งตั้งแต่วันนี้ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดการระบาดได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น นอกจากท่านจะไม่มีจิตวิญญาณความเป็น รมว.แรงงาน แล้ว ยังไม่มีซึ่งความเป็นมนุษย์ด้วยอีก” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าว.