เมื่อวันที่ 19 ต.ค.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีมีรายงานข่าวเรื่องคำร้องนิรนาม เป็นหนึ่งในคำร้องที่ เลขาฯ กกต. นำไปพิจารณาตั้งเเท่น สั่งสอบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำ พรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ทางนายแสวง บุญมี เลขา กกต. หรือ นายทะเบียนพรรคการเมือง จะต้องพูดให้ชัด ว่า คำร้องนิรนาม หรือคำร้องที่ภาษาชาวบ้านเรียกบัตรสนเท่ห์ เป็นหนึ่งในคำร้องที่ท่าน คิดว่ามีมูลในการตั้งแท่นสอบ ตามรายงานข่าว จริงหรือไม่ ถ้าใช่ ก็ไปกันใหญ่ เริ่มมีอำนาจมืดลึกลับแล้ว มันอันตราย แสดงว่าเป็นระบอบที่เอื้อให้เกิดรัฐประหารเงียบ ได้ตลอดเวลา มีแค่บัตรสนเท่ห์ 1 ใบ
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บรรดานักร้อง ถูกตั้งคำถามจากสังคมเรื่อยมา เรื่องมีใบสั่งหรือไม่ หรือ เทียบเคียงกับคดีดังแชร์ลูกโซ่ก็พัวพันคลิปนักร้องเรื่องตบทรัพย์ หรือไม่ อย่างไร บัตรสนเท่ห์ไร้ตัวตนคนร้อง ยิ่งมาตรฐานต่ำกว่านักร้องอีก ถ้าสมมติมีบัตรสนเท่ห์ร้องท่านมา แบบเดียวกัน จะหยิบขึ้นมาตั้งแท่นสอบตัวเอง หรือเปล่า บัตรสนเท่ห์ จะเต็มบ้านเต็มเมือง
เมื่อถามว่า ตอนยุบพรรคก้าวไกล เรียกยุบเเบบขึ้นทางด่วนติดเทอร์โบ ยังมีตัวตนคนร้องเรียน ถ้าพรรคเพื่อไทยโดนยุบพรรค จากหนึ่งในคำร้องนิรนาม ไม่มีตัวตน จะเรียกว่าอะไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า มันก็อาจจะไม่ได้ขึ้นทางด่วนทุกครั้ง แต่มันจะมีระบบชนักปักหลัง เพื่อไปบีบ ไปต่อรอง หรือไม่ แทนที่ผู้ที่ถูกเลือกมาจะมาทำงานรับใช้ประชาชน กลับถูกบัตรสนเท่ห์ นักร้อง และเทวดาที่อยู่หลังม่าน หยิบยกกลไกต่างๆมาบีบให้อำนาจฝ่ายบริหารทำงานไม่ได้ แบบนี้ไม่ต้องตอบโจทย์ประชาชนแล้ว ไปตอบโจทย์พวกเทวดาที่ใช้นักร้อง มาเป็นเครื่องมือทำลายอำนาจประชาชน
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนี้มีเทวดาเยอะมาก ไม่น่าจะมีแค่ในวงการแชร์ลูกโซ่ เทวดาทางการเมืองก็มี ตกลงแล้วองค์กรอิสระ คุณรับใช้ประชาชน หรือรับใช้เทวดาที่อยู่หลังม่าน คุณรักประเทศจริงหรือเปล่า เชื่อมั่นศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จริงหรือเปล่า หรือตกลงแล้วเคารพเสียงกังวานของเทวดาหลังม่าน ถ้าคุณฟังแต่เทวดาหลังม่าน ก็จะใช้คนอย่างพวกคุณไปข่มขู่บีบบังคับ อำนาจนิติบัญญัติ และบริหาร ให้สยบยอมโดยที่ไม่ต้องฟังเสียงประชาชน แล้วอย่างนี้เรียกระบอบประชาธิปไตยหรือ เปลี่ยนชื่อเป็นระบอบเทวดาธิปไตย ไปเลยดีกว่าไหม